เมื่อวันที่ (25 เม.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมพนักงานสอบสวน เข้าแจ้งข้อหากับ นายสามารถ มีคุณ ผู้ต้องกักขังกรณีร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายพรหมปัญญา เกษหอม เพื่อนผู้ต้องกักขังคดีเมาแล้วขับจนเสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย” โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำนำผู้ต้องกักขังอีกหนึ่งคน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมกันมาสอบปากคำด้วย
พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ บอกว่า หลังพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน คือนายสามารถ แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถส่งฟ้องต่อศาลได้
ด้านนางสุรินทร์ เกษหอม แม่ของผู้เสียชีวิตได้ขอบคุณตำรวจและกรมราชทัณฑ์ที่ติดตามตัวผู้ต้องหาได้ รู้สึกพอใจระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าคนก่อเหตุไม่น่าจะมีคนเดียว อยากให้ตำรวจจับคนที่ก่อเหตุทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว
ด้านนางสุรินทร์ เกษหอม แม่ของผู้เสียชีวิตได้ขอบคุณตำรวจและกรมราชทัณฑ์ที่ติดตามตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งรู้สึกพอใจระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าคนก่อเหตุไม่น่าจะมีคนเดียว อยากให้ตำรวจจับคนที่ก่อเหตุทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 1 คน ซึ่งต้องรอตำรวจขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดที่เหลือ พร้อมระบุว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นความบกพร่อง ของกรมราชทัณฑ์ที่ดูแลไม่ดี ซึ่งจะต้องแก้ไขกระบวนการควบคุมผู้ต้องขังต่อไป
ปัจจัยหลักคาดว่าเกิดจากความแออัดของสถานที่กักขังแทนการเสียค่าปรับ เป็นห้องขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร พื้นที่ขนาดนี้ตามปกติแล้วสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 50 คน แต่ภายในห้องดังกล่าวมีผู้ต้องขังถึง 236 คน ทำให้พื้นที่ที่มีไม่เพียงพอ แม้แต่จะนอนลงกับพื้นก็ทำไม่ได้ ทำให้ช่วงกลางคืนผู้ที่ถูกกักขังต้องนั่งหลับซ้อนกัน ยิ่งสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในระยะนี้ ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย