วันนี้ (31 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสาธร พุทธชัยยงค์ พ่อของนักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร พุทธชัยยงค์ หรือโยโย่ เข้าพบนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ทวงความคืบหน้าของสำนวนชี้ขาดของคดีอาญา ที่ครอบครัวยื่นฟ้องจำเลย 11 คนไป แต่อัยการยังไม่พิจารณาสั่งฟ้อง
นายสาธร เปิดเผยว่า รู้สึกเหนื่อยกับคำตอบของอัยการที่ว่ากำลังพิจารณา เพราะได้ยินทุกครั้ง ที่เข้ามาถาม และอ้างว่ามีบุคคลในกระบวนการยุติธรรมโทรศัพท์มาเจรจาให้ยุติการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เหมือนมีความพยายามประวิงเวลา และระหว่างการตอบคำถามผู้สื่อข่าว นายโกศลวัฒน์ ได้พานายสาธรเข้าไปคุยในห้องส่วนตัวร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนจะพาไปคุยกับข้าราชการอัยการระดับสูงคนหนึ่ง ก่อนออกมาขอให้นายสาธรยุติการให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยนายสาธรระบุว่า ได้รับความหวังดีจากอัยการว่า หากให้ข่าวทวงถามเรื่องคดีอีก อาจเข้าข่ายดูหมิ่น
ด้านโกศลวัฒน์ รองโฆษกอัยการสูงสุด ระบุว่า กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาลงความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มาก เพราะจะเป็นการกดดันการทำหน้าที่ของอัยการ และชี้แจงว่า ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายชี้นำหรือการประวิงเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าพบแบบนั้นอัยการจะมีความผิดตามกฎหมาย ความคืบหน้าเปิดเผยได้แค่ว่าตอนนี้มีจำเลย 12 คน จากเดิม 11 คน ที่ยื่นสำนวนฟ้องมา และอัยการสูงสุดลงความเห็นสั่งฟ้องไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งรอสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องจำเลยที่เหลือ
ขณะที่จากการเปิดเผยความคืบหน้าของคดี พ่อน้องโยโย่รู้สึกพอใจขึ้นเล็กน้อย แต่มีความกังวลเรื่องอายุความ เนื่องจากมีเวลาเหลืออีก 5 ปี ตามอายุคดีอาญา ส่วนคดีแพ่ง ที่ศาลแพ่ง รัชดาภิเษก มีคำสั่งชั้นอุทธรณ์ ให้บริษัทอุตสาหกรรมการบิน ชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวน้องโยโย่รวม 4.8 ล้านบาท แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินสักบาท เพราะจำเลยขอต่อสู้ชั้นฎีกา และนายสาธร ตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจเป็นคดีแรกที่ศาลแพ่งมีคำสั่งฎีกาก่อนที่คดีอาญาจะสิ้นสุด ซึ่งกังวลอาจมีผลต่อการเยียวยา