กองทัพซิมบับเวตกลงไม่ดำเนินคดี มูกาเบ-ภรรยา
นายโรเบิร์ต มูกาเบ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในประเทศสิงคโปร์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยวัย 95 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ โดยมีนางเกรซ ภรรยาเฝ้าอยู่ข้างเตียงจนวาระสุดท้าย
“มูกาเบ” ล้มป่วยหลังจากถูกบังคับให้ลงจากอำนาจในตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2017 ก่อนจะเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์ โดยทางการซิมบับเวระบุว่าเขาป่วยด้วยโรคตาเป็นต้อ แต่มีอีกกระแสอ้างว่า เขาป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ก่อนเสียชีวิต”มูกาเบ” แสดงเจตจำนงค์ว่า ให้ฝังศพเขาใกล้กับหลุมศพของแม่ที่ฟาร์มของครอบครัวใกล้กกรุง”ฮาราเร” โดยปฏิเสธไม่ยอมให้ฝังที่อนุสาวรีย์วีรชนที่รัฐบาลเกาหลีเหนือสร้างให้
“มูกาเบ”เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปี 1924 ซึ่งตอนนั้นซิมบับเวยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษภายใต้ชื่อประเทศ”โรห์ดิเซีย”
เขาเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลของชาวผิวขาวฝีปากกล้า จนถูกจำคุกเมื่อปี 1964 ต่อมาในปี 1973 ขณะที่ยังถูกคุมขัง เขาได้ตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมาชื่อ”สหภาพซิมบับเวแอฟริกันแห่งชาติ” หรือ”ซานู”(Zanu) เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลคนผิวขาว
หลังได้รับอิสระเขาได้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเต็มตัว โดยใช้วิธีทางหนึ่งรบอีกทางหนึ่งเจรจา จนในที่สุด”โรห์ดิเซีย”ได้รับเอกราชจากอังกฤษ และเปลีย่นชื่อมาเป็น”ซิมบับเว”ในที่สุด
ตลอดเวลา 37 ปีที่อยู่ในอำนาจเขาปกครองประเทศด้วยระบอบเผด็จการ ขับไล่คนผิวขาวซึ่งเป็นคนส่วนน้อยออกจากประเทศ และกลายเป็นปรปักษ์กับรัฐบาลชาติตะวันตก แต่กลับได้รับเสียงสรรเสิรญจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเหมือนเป็นวีรบุรุษ
แต่หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ประชาชนเริ่มไม่พอใจ เพราะประเทศยากจนลงทุกที แถมยังไม่มีสิทธิมีเสียงในการวิจารณ์รัฐบาล จนมาถึงจุดแตกหัก เมื่อมูกาเบแสดงท่าทีชัดเจนว่า จะให้”เกรซ”ภรรยาคนสุดท้าย ขึ้นมารับช่วงอำนาจต่อจากตัวเขา ทำให้กองทัพต้องเข้ามาแทรกแซง ก่อนจะปลดเขาออกจากตำแหน่งในปี 2017
วลีที่โดงดังที่สุดของ”มูกาบ” ที่ผู้คนจดจำได้ดีที่สุดคือ” พระเจ้าสร้างผมให้เป็นประธานาธิบดี จึงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ไล่ผมออกจาตำแหน่ง” และนี่คือภาพถ่ายที่เชื่อว่าเป็นภาพสุดท้ายของเขาโดยมีบุตรชายโรเบิร์ต มูกาเบ จูเนียร์อยู่เคียงข้าง
“จระเข้” ว่าที่ผู้นำซิมบับเวให้คำมั่นฟื้นฟูประเทศหลังสิ้นยุค “มูกาเบ”