นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความสำเร็จการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ในช่วง 4 วันแรก มีผู้สนใจเข้าร่วมเต็มตามโควตา 1 ล้านคนทุกวัน โดยจากข้อมูลการลงทะเบียนในช่วง 4 วันแรก (วันที่ 23-26 กันยายน 2562) หากแยกตามกลุ่มอายุพบว่า “วัยทำงาน (อายุ 31-60 ปี) มีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 54” รองลงมาคือ วัยเริ่มต้นทำงาน (อายุ 22-30 ปี) ร้อยละ 32 วัยนักศึกษา (อายุ 18-21 ปี) ร้อยละ 8 และผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ร้อยละ 6
เต็มตั้งแต่ตีห้า!! ชิม ช้อป ใช้
ตัดสิทธิ์ “ลอตเตอรี-วิน จยย.” ร่วม “ชิมช้อปใช้”
และหากแยกตามพื้นที่ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องการใช้สิทธิ์พบว่า ทั้ง 77 จังหวัดมีผู้แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวและใช้สิทธิ์ โดยส่วนใหญ่ต้องการใช้สิทธิ์ในภาคกลางคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 16 ภาคตะวันออกร้อยละ 15 ภาคใต้ร้อยละ 11 ภาคเหนือร้อยละ 9 และภาคตะวันตกร้อยละ 6
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ที่ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 หลักจากการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย และตรวจสอบจังหวัดที่แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวไม่ซ้ำซ้อนกับจังหวัดในทะเบียนบ้านแล้วพบว่า “เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์จะทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันนี้และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป”
ส่วนสิทธิ์ที่คงเหลือในแต่ละวันจะถูกยกไปใช้ต่อเป็นโควตาสำหรับให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ให้ครบโควตารวมตลอดโครงการที่ 10 ล้านราย ดังนั้นจะสามารถทยอยลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562
ก.คลัง สั่งยกเลิกร้านลอตเตอรี่ ในโครงการ “ชิมช้อปใช้”
ส่วนกรณีที่มีคนฉวยโอกาสรับแลกเป็นเงินสด ถือว่าเป็น...
“การดำเนินการที่ผิดจากวัตถุประสงค์หรือหากตรวจพบว่ามีธุรกรรมลักษณะผิดปกติ จะถูกระงับสิทธิ์ทันทีและจะถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”
ฉวยโอกาสจากช่องโหว่ "ชิม ช้อป ใช้" คิวอาร์โค้ดแลกเงินสดหักหัวคิว 15%
โฆษกกระทรวงการคลัง เน้นย้ำด้วยว่า “มาตรการ “ชิมช้อปใช้” ไม่ใช่การแจกเงิน แต่ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่กำหนด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ” โดยสิทธิ์ 2 ส่วนคือ วงเงิน 1,000 บาทแรก ในกระเป๋า G-Wallet 1 เพื่อจูงใจให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อออกมาท่องเที่ยวข้ามจังหวัด และสิทธิ์การได้รับเงินคืน (cash back) ร้อยละ 15 ของวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาทในกระเป๋า G-Wallet 2 ซึ่งประชาชนต้องเป็นคนเติมเงินเข้าไปเอง