“ชิม ช้อป ใช้” สแกนใบหน้าไม่ผ่าน ชาวบ้านรอติดต่อจนแน่นธนาคาร
7 ปัญหา “ชิม ช้อป ใช้” ตั้งแต่ลงทะเบียนจนถึงขั้นร้านค้าขอยกเลิกร่วมโครงการ
ประชาชนจำนวนมาก มาที่ธนาคารกรุงไทยสาขาหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่ธนาคารยังไม่เปิดทำการ เพื่อมารอติดต่อลงทะเบียนโครงการ “ชิมช้อปใช้” ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดทำบัตรคิวชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและความวุ่นวาย โดยปัญหาที่ประชาชนพบ คือขั้นตอนสแกนใบหน้าจากแอฟพิเคชั่น “เป๋าตัง” ไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงต้องช่วยแนะนำ โดยเสียบบัตรประชาชนผ่านเครื่องของธนาคาร และสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ และจังหวัดที่เลือก ก็สามารถผ่านขั้นตอนและสามารถรับสิทธิ์โครงการ “ชิมช้อปใช้” 1,000 บาท ได้ทันทีในเวลาของแต่ละรายไม่เกิน 2 นาที
ส่วนที่ธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก มีประชาชนที่สมัครโครงการ “ชิมช้อปใช้” มารอจำนวนมากเช่นกัน ทีมข่าวพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ติดปัญหาการสแกนใบหน้าหน้ายืนยันตัวตนไม่ผ่าน เพราะบัตรประชาชนมีอายุหลายปี เค้าโครงใบหน้าจึงเปลี่ยนไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือให้ทดลองสแกนใบหน้าใหม่ บางคนใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ผ่านสำเร็จ ได้สิทธิทันทีหลังจากได้รับ sms ยืนยัน
ส่วนคนที่สแกนใบหน้าไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำให้ลงทะเบียนยืนยันผ่านระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนักแต่เนื่องด้วยจำนวน ประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกสมัครเข้าร่วมโครงการมีจำนวนมาก จึงทำให้วันนี้ต้องรอคิวนานถึงแม้ว่าทางธนาคารจะจัดเจ้าหน้าที่ธนาคารเพิ่มเติมแล้วก็ตาม สำหรับผู้ที่จะยืนยันตัวตนผ่านระบบของธนาคารจะต้องเตรียมหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชน1ใบพร้อมบัตรตัวจริง เพื่อใช้ประกอบการยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทย
ที่ จ.ชัยภูมิ ประชาชนเดินทางมารอหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ราชการจังหวัดชัยภูมิตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยยืนยันตัวตนกับบัตรประชาชน ผ่านแอปพิเคชั่น เป๋าตัง เนื่องจากส่วนใหญ่ยืนยันตัวตนไม่ผ่าน ชาวบ้าน บอกว่า ปัญหาที่พบคือ สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง หลายไม่สำเร็จ จึงมาที่ธนาคารเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ด้านเจ้าหน้าที่ระบุสาเหตุของการสแกนใบหน้าไม่สำเร็จ มาจากสาเหตุรูปบนบัตรประชาชนไม่ชัดเจน ระหว่างสแกนใบหน้ามีแสงมากเกินไป หรือใบหน้าปัจจุบันไม่ตรงกับบนบัตรประชาชน
เริ่มต้นกันตั้งแต่การลงทะเบียนสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com หากลงทะเบียนในช่วงเที่ยงคืนจะตรงมีผู้ลงทะเบียนรอสิทธิ์เป็นจำนวนมาก บางวันมีคนรอเข้าพร้อมกันถึง 700,000 คน ทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ผู้ใช้งานจึงต้องรอที่หน้าเว็บ หรือทำการรีเฟรช โหลดหน้าเพจซ้ำจนกว่าจะเข้าเว็บได้ ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับการจำนวนผู้ใช้บริการด้วย
ส่วนขั้นตอนการยืนยันตัวตน ที่ระบบจะให้สแกนใบหน้าเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ ระบบจะจับคู่ใบหน้าของเรากับบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งใบหน้าของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากภาพฐานข้อมูลในบัตร จึงไม่สามารถลงทะเบียนได้ วิธีแก้ไขปรับใบหน้าให้คล้ายกับในบัตรประชาชนมากที่สุด เช่น ทดลองจัดทรงผม หรือถอดแว่นตาให้คล้ายกับในภาพ หากยังสแกนไม่ได้ ให้ไปที่สาขาของธนาคารกรุงไทยเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยแก้ไข
กรณีลงทะเบียนเรียบร้อย นำเงินไปใช้จ่ายแล้วแต่ระบบแอปพลิเคชันไม่สามารถจ่ายเงินจากแอปฯ “เป๋าตัง” ได้นั้น ปัญหานี้มาจากผู้ลงทะเบียนไม่ได้เปิดให้โทรศัพท์ ระบุสถานที่ หรือโลเคชั่น เซอร์วิส เพื่อให้ระบบได้ทำการตรวจสอบถึงพิกัดในจังหวัดออกไปท่องเที่ยวได้ เนื่องจากระบบรับชำระเงินจะเชื่อมโยงกับโลเคชั่น เซอร์วิสบนโทรศัพท์
ด้านปัญหาของผู้ประกอบการที่เงินไม่เข้าแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ทางกรมบัญชีกลางได้ชี้แจงวิธีการ ว่า กระเป๋าสิทธิชิมช้อปใช้ 1,000 บาท จะตัดยอดในเวลาเที่ยงคืน โดย ธนาคารกรุงไทยจะทำการตรวจสอบความถูกต้อง ทำการประมวลผล และกรมบัญชีกลางจะทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันทำการถัดไปแต่ไม่เกินเวลา 21.00 น. กรณีที่เป็นวันหยุดทำการ เสาร์-อาทิตย์ จะดำเนินการโอนเงินให้ร้านค้าในวันทำการแรกถัดไป เช่น ร้านค้าที่รับเงินจาก App เป่าตัง ในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. 62 (ซึ่งเป็นวันแรกที่เริ่มจ่ายเงินร้านค้าตามมาตรการ) จะได้รับเงินในวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. 62 ซึ่งรวมกับยอดรายการขายของวันเสาร์ที่ 28 และวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. 62 ด้วย ทั้งนี้ กระเป๋า G-Wallet 2 จะตัดยอดในเวลา 23.30 น.โดย ธนาคารกรุงไทยจะทำการประมวลผลและทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนแต่ไม่เกินเวลา 05.00 น. ของวันถัดไป โดยไม่เว้นวันหยุดทำการ เสาร์-อาทิตย์
คลังเปิดยอดใช้จ่าย “ชิม ช้อปใช้” 3 วันแรกพร้อมแจงทุกปัญหาที่เกิดขึ้น
กรุงไทย ยันระบบ “ชิมช้อปใช้”ไม่ได้ล่ม แต่จุดชำระเงินของห้างมีจุดเดียว