โซเชียล แชร์ภาพ"แก่งหูแร่ จ.พัทลุง"รุกล้ำคลองสาธารณะ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้ประกอบการทั้ง 10 รายเร่งรื้อถอนปูนคอนกรีต ที่รุกล้ำในลำคลองท่าดี อ.ลานสกา ตามข้อตกลงในการรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ขณะเดียวกันโซเชี่ยลมีการแชร์ภาพ ร้านอาหารรอีกที ที่มีลักษณะรุกล้ำลงไปคลองแก่งหูแร่ จ.พัทลุง

ในสังคมโซเชียลมีการแชร์โพตส์ภาพบรรยากาศร้านอาหารบริเวณแก่งหูแร่ ในพื้นที่  ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง  ระบุข้อความว่า รุกล้ำลำน้ำสาธารณะหรือไม่..?  #แก่งน้ำหูแร่หรือคลองหูแร่ เป็นส่วนหนึ่งของคลองอีโตในพื้นที่ ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว ต้นน้ำของคลองนี้คือป่าใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด โดยผู้โพสต์คือเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก  ชมรม strong – จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.นครศรีธรรมราช

ผู้ว่าฯนครศรีฯ สั่งผู้ประกอบการรื้อถอนคอนกรีตรุกล้ำคลองคีรีวง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าแก่งหูแร่  หรือ ธารน้ำหูแร่ เป็นส่วนหนึ่งของคลองหูแร่ที่รับน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด สภาพบรรยากาศสองฝั่งคลองมีผู้ประกอบการร้านอาหารประมาณ 10 ร้าน ตั้งเรียงรายริมฝั่ง บริเวณริมคลองมีเพิงพักแบบลอยน้ำได้วางเรียงราย ไว้บริการนักท่องเที่ยว 

จากการสอบถาม ผู้ประกอบการในพื้นที่ บอกว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ดินส่วนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำคลองสาธารณะ ยอมรับว่าทางร้านนำสิ่งปลูกสร้างลงไปบริเวณลำธารจริง แต่เป็นเพิงพักแบบลอยน้ำ ไม่ได้ทำแบบถาวรใช้วัสดุอิฐและปูน อย่างที่เป็นข่าวและที่ผ่านมาบริเวณแก่งหูแร่ได้รับการส่งเสริมทั้งจากท้องถิ่น และจากจังหวัด เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หลังตกเป็นข่าวทำให้ผู้ประกอบการไม่สบายใจและหากผิดจริงก็ยอมให้รื้อถอน

เจ้าท่าฯ แจ้งความเทคอนกรีตรุกล้ำคลองท่าดี ทุกราย

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านริมลำคลองท่าดี อำเภอลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ฝั่งทางด้านทิศตะวันออกของลำน้ำได้เร่งรื้อถอนคอนกรีตที่รุกล้ำไปในลำคลอง โดยใช้ทั้งแรงงานคนและเครื่องจักรเข้าทำการรื้อให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็วตามข้อตกลงระหว่างหน่วยงานราชการและผู้ประกอบทั้ง 10 รายที่เทคอนกรีตรุกล้ำ 

โดยมีนายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา และนายสันธนะ จันทร เจ้าท่าภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าบันทึกภาพสังเกตการณ์

นายสมพร อนุโต ผู้ประกอบเจ้าของร้านกาแฟ ระบุว่าสาเหตที่เทคอนกรีต เพราะไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยอมรับและรื้อออกทั้งหมดเหมือนกันทุกๆร้านตามข้อตกลง และได้ขอโทษผู้ที่รักธรรมชาติรักคีรีวงที่เป็นแบบนี้ สำหรับการลงทุนที่เกิดขึ้นนั้นถ้านับรวมที่จะรื้อด้วยแล้วประมาณ 1 แสนบาท

ในส่วนของคดี นายสันธนะ จันทร เจ้าท่าภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช  เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ  หลังได้รับคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีข้อยกเว้นเนื่องจากหากไม่ดำเนินการเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง

ภาระหลังจากนี้ทางเจ้าท่าจะต้องไปทำการตรวจสอบพื้นที่รุกล้ำของแต่ละรายว่ามีมากน้อยแค่ไหน ใครบ้างเพื่อนำส่งให้พนักงานสอบสวน ส่วนระวางโทษนั้นมีทั้งจำและปรับ เมื่อถามว่าการเร่งรื้อถอนของผู้ประกอบการจะเป็นเหตุในการบรรเทาโทษหรือไม่ เจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช ระบุว่าเป็นดุลพินิจของศาล

"ศรีสุวรรณ"แนะรัฐ สั่งรื้อถอนทั้งหมดยึด"คีรีวง"เป็นแม่แบบ

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แสดงความคิดเห็นกรณีที่มีการเทคอนกรีตรุกล้ำคลองท่าดี ในชุมชุนคีรีวง มองว่าเป็นการเพิกเฉยละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมเจ้าท่า ที่มีส่วนรับผิดชอบหลักเพราะเป็นพื้นที่ในความดูแล  รวมถึง อบต. นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันในการกำกับดูแลให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐนี้ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ส่วนภาพรวมการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย นายศรีสุวรรณ มองว่าเป็นเพราะบางพื้นที่มีการก่อสร้างมาหลายปีแล้ว โดยผู้ประกอบการอาจไม่คิดว่าผิดกฎหมายเพราะก่อนหน้านี้ที่มีผู้ประกอบการรายอื่นสร้างรุกล้ำพื้นที่ลำน้ำก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปสั่งรื้อถอน แต่พอเป็นข่าวดังถึงมีการสั่งดำเนินการ

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ เสนอแนะว่า ในเมื่อมีการจุดประเด็นเรื่องดังกล่าวมาแล้ว หน่วยงานรัฐก็ควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยการแก้ไขระยะสั้นควรสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำทั้งหมด ส่วนการแก้ไขระยะยาวควรยึดคีรีวงเป็นแม่แบบแล้วตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในแหล่งท่องเที่ยวลักษณะเดียวกัน ไม่ให้มีการสร้างรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้ลำคลองอีก

นอภ.ลานสกา สั่งรื้อ คอนกรีตลุกล้ำแม่น้ำ

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ