เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.62) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวระหว่างการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “เศรษฐกิจซบเซาและซึมยาว SME ไทยจะรับมืออย่างไร?” ว่า หลักการของภาครัฐนั้นพึ่งพิงกำไรของนิติบุคคล เอกชน เอสเอ็มอี ที่คอยจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลสูงถึง 20% ยิ่งบริษัทมีกำไรมากขึ้น รัฐบาลก็ย่อมจัดเก็บภาษีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือให้บริษัทเอกชนและเอสเอ็มอีมีกำไร
“ประยุทธ์” ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้ถดถอย แค่เติบโตช้าลง
โดยนายธนาธร แสดงความกังวลว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจซบเซา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องวางแผนให้ดี ซึ่งเครื่องมือชั้นต้นของธุรกิจคือต้องดูที่งบดุลเป็นสำคัญ ในยามที่บริษัทได้กำไร ต้องแบ่งไว้ 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ เก็บเผื่อฉุกเฉิน, ลงทุนใหม่ให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคืนเงินกู้ธนาคาร หากมีกำไรเหลือก็ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่ในสถานการณ์วิกฤต สิ่งที่กระทบกับผู้ประกอบการมากที่สุดคือ ยอดขายลดลง หากจำเป็นการลดเงินเดือนของผู้บริหารก็เป็นแก้ปัญหาอีกทางหนึ่ง
“ธนาธร” ขอโทษลูกพรรค ยอมรับ สื่อสารคนในพรรคน้อย
ทั้งนี้ นายธนาธร ระบุว่า ผู้ประกอบการต้องประเมินให้เห็นแผนในอนาคต เพื่อบริหารกระแสเงินสดให้ได้ประสิทธิภาพ อาจเจรจากับลูกค้าให้จ่ายเร็วขึ้น หรือเจรจาพนักงานขอจ่ายช้าลง เนื่องจากภาวะวิกฤต เงินสดคือหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอด หรือ Cash is King เพื่อนำมาหมุนเวียนให้ธุรกิจเดินต่อได้
ธนาคารโลก หั่นจีดีพีไทย โตเหลือ 2.7% หวั่นเงินบาทแข็งซ้ำเติม