เปิดแผนคนร้ายถล่มฐาน ชรบ.ลำพะยา
ญาติเศร้า 10 ศพ ชรบ.ลำพะยา ถึงวัดเตรียมบำเพ็ญกุศล
ศพผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายถล่มป้อมตรวจ ชรบ.ลำยา ส่วนใหญ่จะบำเพ็ญกุศลที่วัดลำพะยาทั้งหมด 9 คน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพวงมาลาหลวง พร้อมทั้งพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต โดยศพผู้เสียชีวิต 9 คน ถูกเคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาล 3 แห่งในจังหวัดยะลา ด้วยรถของเจ้าหน้าที่ มีญาติๆของผู้เสียชีวิตมารอรับ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ และมีประชาชนข้าราชการ นักเรียน ในพื้นที่จำนวนมากมาร่วมพิธีรดน้ำศพ โดยพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 9 คน จัดขึ้นที่ลานในวัดลำพะยา โดยกางเต๊นท์ขนาดใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ศาลาในวัดไม่สามารถรองรับได้คนที่มาร่วมพิธีจำนวนมากได้
ด้านพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ พร้อมเป็นตัวแทนมอบเงินสนับสนุนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุถล่มป้อมตรวจ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ตำบลลำพะยา แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 คน อยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด และจากพยานหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุโดยเฉพาะปลอกกระสุนปืน สามารถระบุกลุ่มที่ก่อเหตุ ยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มของนายบุคอรี หลำโส้ะ มะยาโกะ ลาเตะ ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่พื้นที่รอยต่อ 3 อำเภอ
ความปลอดภัยหมู่บ้านลำพะยา เป็นฝีมือของขบวนการบีอาร์เอ็น และยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีนักรบรุ่นใหม่ หรือกลุ่มหน้าขาว ซึ่งเป็นแนวร่วมที่ไม่มีหมายจับร่วมก่อเหตุด้วย ล่าสุดยืนยันว่าสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างสอบปากคำและขยายผล
แม่ทัพภาคที่ 4 ไม่ปฏิเสธว่าการถล่มป้อมตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านลำพะยา เป็นฝีมือของขบวนการบีอาร์เอ็น และยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีนักรบรุ่นใหม่ หรือกลุ่มหน้าขาว ซึ่งเป็นแนวร่วมที่ไม่มีหมายจับร่วมก่อเหตุด้วย ล่าสุดยืนยันว่าสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างสอบปากคำและขยายผล
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนร้ายมากกว่า 10 คน เดินออกมาจากป่าหลังป้อม ชรบ.ลำพะยา แต่งตัวด้วยชุดสีเทาทั้งตัวส่วนหนึ่งเดินออกมาจากป่าข้างป้อม เมื่อมาถึงป้อม คนร้ายเปิดฉากยิงหม้อแปลงไฟฟ้า และยิงไฟส่องสว่างทั้งหมด และอีกส่วนหนึ่งเข้าไปยิงเด็ก 17 ปีเป็นคนแรก ก่อนกราดยิงและปาระเบิดใส่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์โดยไม่มีการพูดคุยหรือเจรจาอะไร ซึ่งตอนนั้นตัวผู้รอดชีวิตคนนี้นั่งอยู่ในป้อมถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ร่างกาย ก่อนจะเข้าไปหลบในป่า
ผู้รอดชีวิตคนนี้ยังเล่าว่า คนร้ายยังกราดยิงต่อเนื่องกว่า 20 นาที ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนร้ายพูดเป็นภาษามลายู แปลเป็นภาษาไทยว่า เสียชีวิตหมดแล้ว หลังเสียงปืนสงบ ผู้รอดชีวิตคนนี้ ยังได้ตามหาพี่สาวที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนจะมาทราบว่าพี่สาวของเขาเสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาล
ทีมข่าวยังสำรวจจุดเกิดเหตุ พบว่าป้อม ชรบ.มีร่องรอยกระสุนทุกทิศทาง และมีร่องรอยขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นร่องรอยของลูกระเบิด m 79 ที่คนร้ายขว้างใส่คนที่อยู่ในป้อม ข้าวของเสียหายจำนวนมาก
เมื่อดูจากจุดที่ตั้งของป้อม ชรบ. พบว่าอยู่ในจุดที่ทางทหารเรียกว่า " จุดสูงข่ม " คือมีลักษณะตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มตรงกลาง โดยที่ถนนทางเข้าจุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นเนิน นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบของป้อมตรวจ ชรบ. ล้อมรอบด้วยป่ายาง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงง่ายที่จะถูกก่อเหตุ
ประเด็นนี้สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ยอมรับว่า จุดที่ตั้งของป้อม ชรบ.ลำพะยา เป็นจุดอ่อนที่ทำให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ง่ายเตรียมประชุมความคืบหน้าพรุ่งนี้