“ภัยแล้ง” ผลกระทบที่เกษตรกรต้องรับมือ
รองนายกฯ ยอมรับปีนี้แล้งหนัก ขอทุกฝ่ายประหยัดน้ำ สั่งเจาะบาดาลเพิ่ม 500 แห่ง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นำโดย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. พาทีมข่าวลงพื้นที่ตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี หนึ่งในพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาเรื่องน้ำแล้งจนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งปัจจุบันได้งบประมาณจากรัฐบาลไปขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อแก้ปัญหาบางส่วนแล้ว ซึ่งบ่อบาดาลพร้อมระบบสูบจ่ายที่เห็นนี้ได้งบประมาณมากกว่า 1 ล้านบาท
เลขาธิการ สทนช. ชี้แจงว่ามาตรการระยะสั้นของรัฐบาลในการแก้วิกฤติภัยแล้งปีนี้ ส่วนหนึ่งมุ่งเน้นไปที่การขุดเจาะบ่อบาดาล 1,100 โครงการ มูลค่า 1,300 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วงบประมาณตกอยู่ที่บ่อละล้านกว่าบาท ไม่ใช่บ่อละ 6 ล้านบาทตามที่เป็นกระแสข่าว ซึ่งราคานี้ถือว่าไม่แพงเกินไป เพราะเจาะลึกกว่า 100 เมตร และไม่ได้เจาะอย่างเดียว แต่ยังมีโครงสร้าง และระบบสูบน้ำด้วย
สำหรับราคากลางขุดเจาะบ่อบาดาลที่ถูกเสนอในงบประมาณ2563 ครั้งที่ ที่ความลึก 150 เมตร จะประกอบด้วย
ค่าสำรวจพื้นที่และความเหมาะสม ค่าสำรวจธรณีฟิสิกส์ขุดเจาะบ่อบาดาล งานเจาะและพัฒนาบ่อบาดาล งานหยั่งธรณีฟิสิกส์ในหลุมเจาะ งานสูบทดลองปริมาณน้ำบาดาล งานติดตั้งแผ่นป้ายหน้าบ่อ งานก่อสร้างระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และงานอำนวยการบริหารโครงการ รวมทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 1 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นบาท ซึ่งราคานี้คือราคาการเจาะลึกที่ 150 เมตร หากลึกไม่ถึงก็จะต้องพิจารณาราคาตามความเป็นจริง
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งที่ลุ่มน้ำปราจีน รอยต่อกับแม่น้ำบางประกง ล่าสุกเริ่มเจอสถานการณ์น้ำเค็มรุกแล้ว ซึ่งจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือแม่น้ำปราจีนช่วง อ.เมือง ซึ่งหากค่าความเค็มเกินมาตรฐานจะกระทบต่อระบบผลิตประปาของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ และชุมชนเมืองปราจีนบุรี แต่เลขาธิการ สทนช.ยืนยันว่าขณะนี้ยังมีน้ำในเขื่อนนฤบดินทรจินดาช่วยปล่อยน้ำลงมาอยู่ ทำให้ค่าความเค็มยังรุกขึ้นมาไม่ถึงเขตตัวเมือง
“บิ๊กตู่” แนะ ปชช.ขุดดินทำบ่อ แก้ปัญหาน้ำ ชี้ รบ.ทำให้ทุกอย่างไม่ได้