นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างสัญญาระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กรณียุติข้อพิพาททั้งหมดที่เกิดขึ้นรวม 17 คดี เพื่อแลกกับการแก้ไขสัญญาให้บีอีเอ็มเป็นผู้รับสัมปทานบริหารและจัดเก็บค่าผ่านทางทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยจะไปสิ้นสุดสัญญาพร้อมกันในวันที่ 31 ต.ค. 2578
ขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM 15 ปี 8 เดือน
อย่างไรก็ดี หากประเด็นของการยุติข้อพิพาทไม่ถูกนำมาพิจารณาในวันนี้ สัญญาสัมปทานเดิมก็จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ. 2563 ซึ่งจะส่งผลให้ กทพ.จะต้องเปิดประมูลเพื่อหาเอกชนเข้ามาบริหารใหม่ แม้ว่า กทพ.จะมีแนวคิดที่จะจ้างบีอีเอ็มรับบริหารไปก่อน ก่อนที่จะเจรจาสัญญาใหม่แล้วเสร็จ แต่ในแง่ของกฎหมายไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายร่วมทุนฉบับใหม่ กำหนดไว้ว่าการร่วมทุนรัฐและเอกชนต้องประมูลใหม่อย่างเดียว
ทั้งนี้ ในส่วนเงื่อนไขของส่วนแบ่งรายได้ ยืนยันว่ายังคงอยู่ในสัดส่วนเดิม คือ กทพ.ได้ 60% และ BEM ได้ 40% นอกจากนี้ภายใต้สัญญาใหม่แม้ว่า BEM จะมีสิทธิในการต่อสัญญาได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี แต่รัฐก็มีสิทธิในการพิจารณาไม่ต่อสัญญาได้เช่นกัน
ยุติค่าโง่ทางด่วน ขยายสัมปทาน 15 ปี 8 เดือน แลกหนี้แสนล้าน
BEM คงค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในอัตรา 16-42 บาท