เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2563 นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้เดินทางยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนของสหภาพฯ ต่อกรณีแผนฟื้นฟูบริษัทฯ การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะให้โอกาสบริษัทการบินไทยเป็นครั้งสุดท้ายในการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างเพื่อแก้ปัญหาการขาดทุน โดยในหนังสือระบุใจความว่า
นายกฯ ให้โอกาสการบินไทยครั้งสุดท้าย! ลั่นต้องเร่งฟื้นฟูก่อนจะแย่ไปกว่านี้
สหภาพแรงงานรัฐวิสหกิจการบินไทย ขอแสดงจุดยืนในการดูแล บริษัทการบินไทย จํากัด (มหาชน) โดยเน้นในเรื่องของสถานะสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และการอยู่ร่วมกันของหน่วยงานทุกหน่วยงานของบริษัทฯและการคุ้มครองสิทธิประโยชน์รวมถึงสวัสดิการของพนักงานบริษัทฯ ทุกท่านตามสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิมตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ขอแสดงความเห็นด้วยกับการปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กร การเพิ่มรายได้ การลดค่าใช้จ่าย การกำจัดอิทธิพลทางการเมือง ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ รวมถึงการลดขนาดขององค์กรอย่างถูกต้องตามกฎหมายและด้วยความสมัครใจของพนักงาน ตามแผนฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และไม่กระทบกับสภาพการจ้างของพนักงานบริษัทฯ
สหภาพฯ "การบินไทย" จี้ปฏิรูปองค์กรก่อนลดพนักงาน
ทั้งนี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และพนักงานบริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยขอแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการแปรรูปบริษัทฯ ด้วยการแบ่งแยกหน่วยธุรกิจ ของบริษัทฯออกจากกัน และ/หรือ มีผลให้บริษัท การบินไทย พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากการบินไทย เป็นสายการบินแห่งชาติ และต้องเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
อนึ่งเพื่อความสมบูรณ์ของแผนฟื้นฟูในการทำให้บริษัทฯ ดำเนินไปตามแผนฯ สหภาพฯ ขอทำหน้าที่ในการตรวจสอบ และ/หรือมีส่วนร่วมรับรู้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการปฎิบัติ เพื่อให้แผนฟื้นฟูนี้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ จึงเรียนมาเพื่อแสดงจุดยืนของสหภาพฯ ให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ และใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจ และสั่งการต่อไป