“ก้าวไกล” ชี้ อุ้มการบินไทย วงเงินจริงอาจสูงกว่า 1.34 แสนล้าน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“ก้าวไกล” ชวน คนไทยร่วมทบทวน “สายการบินแห่งชาติ” ยังจำเป็นต้องมีหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์คัดค้านกรณีที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะสั้นจำนวน 54,000 ล้านบาทให้แก่ บมจ.การบินไทย และมีรายงานข่าวว่าจะมีการเสนอแผนการฟื้นฟูการบินไทยให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค. 63)

ส.ส.ภูมิใจไทย ชี้ อุ้มการบินไทย เพื่ออะไรกัน

โดยเนื้อหาระบุว่า พรรคก้าวไกลเห็นว่าในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤต การใช้เงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลโดยไม่รับผิดชอบและไม่รอบคอบเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเม็ดเงินจริงๆ ที่จะใช้ในแผนฟื้นฟูการบินไทยสูงถึง 134,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่แค่การค้ำประกันเงินกู้ 54,000 ล้านบาทเท่านั้น เพราะตามที่ปรากฎในรายงานของสื่อมวลชนยังมีแผนที่จะเพิ่มทุนอีก 80,000 ล้านบาทด้วย

ทั้งนี้แม้สายการบินทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 แต่ไม่มีผู้นำประเทศและรัฐบาลไหนในโลกที่ตัดสินใจใช้เงินภาษีของประชาชนให้ความช่วยเหลือสายการบินก่อนที่จะตกลงเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือได้ชัดเจน การบินไทยนั้นล้มเหลวในการบริหารมาโดยตลอด ขาดทุนต่อเนื่องมา 3 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าการอุ้มการบินไทยรอบนี้ จะเป็นการนำเงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลไปใช้อย่างสูญเปล่าหรือไม่

นอกจากนี้ว่าถ้าการช่วยเหลือการบินไทยต้องใช้เงินสูงถึง 134,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยแผนฟื้นฟูการบินไทยโดยละเอียดก่อนที่จะมีการอนุมัติ เพื่อให้ประชาชนเจ้าของเงินภาษีได้พิจารณาก่อน ทั้งนี้ เราพบว่าแผนฟื้นฟุดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะแตกต่างไปจากแผนปฏิรูปการบินไทยเมื่อปี 2558 ซึ่งล้มเหลวมาแล้ว ทำให้ไม่สามารถเชื่อได้ว่าการบินไทยจะสามารถปรับโครงสร้างได้สำเร็จ ซึ่งถ้ารายงานข่าวข้างต้นมาจากแผนฟื้นฟูการบินไทยจริง เราไม่อาจเชื่อได้ว่า “นี่คือการช่วยครั้งสุดท้าย” ตามคำพูดของนายกรัฐมนตรี และเงินในการอุ้มการบินไทยจะมากกว่า 134,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน”

จับตา แผนฟื้นฟู การบินไทย ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ

ส่วนในประเด็นสุดท้าย แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของการบินไทยเหลืออยู่เพียง 15,000 ล้านบาท หากจะมีการใช้เงินกู้ฉุกเฉิน 54,000 ล้านบาทต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องยืนยันสิทธิ์ที่จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ในระหว่างนี้ต้องมีการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อแปลงหนี้ให้เป็นทุนบางส่วน พร้อมกันนั้น ผู้บริหารการบินไทยชุดเดิมต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบและเปิดให้ผู้บริหารมืออาชีพเข้าทำงานแทนที่เครือข่ายของผู้มีอำนาจ กองทัพ และข้าราชการ

จากนั้นก็คงถึงเวลาที่จะต้องทบทวนว่า เรายังจำเป็นต้องมีสายการบินแห่งชาติอยู่อีกหรือไม่ และการบินไทยนั้นได้ทำหน้าที่ของสายการบินแห่งชาติได้ดีแค่ไหน ประชาชนและประเทศได้ประโยชน์อะไรจากการบินไทย หรือที่ผ่านมาการบินไทยเป็นเพียงแหล่งหาผลประโยชน์ให้แก่เครือข่ายของผู้มีอำนาจ กองทัพ และข้าราชการบนฐานภาษีของประชาชนเท่านั้น

“ทางเลือกแรก หากเราจะไม่มีสายการบินแห่งชาติอีกต่อไป  จำเป็นต้องมีเงื่อนไขการเปิดเสรีน่านฟ้าเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่จะนำไปสู่ผลประโยชน์ของผู้บริโภค  ส่วนทางเลือกที่เหลือ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมืออาชีพด้านการกู้ธุรกิจล้มละลายเข้ามาบริหารในช่วงฟื้นฟู ก่อนที่จะกลับมาขายหุ้นบางส่วนให้เอกชนเมื่อฟื้นฟูเสร็จ ซึ่งสัดส่วนหุ้นที่จะขายให้เอกชนจะต้องตัดสินใจว่า หลังจากวิกฤตครั้งนี้รัฐจะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ในการบินไทยหรือไม่ ถ้าถือหุ้นส่วนใหญ่ยังจะคงสัดส่วนมากกว่าหรือน้อยกว่า 50%” แถลงการณ์พรรคก้าวไกลระบุทิ้งท้าย

“ธนาธร” เชียร์รัฐบาลลดถือหุ้น “การบินไทย” เหลือ 0-25%

 

 

 

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ