เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสนทนาระหว่างชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกับหญิงสาวคนหนึ่งที่กลับจากประเทศมาเลเซีย และถูกกักตัวอยู่ในสถานที่เฝ้าระวังของภาครัฐ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
กอ.รมน.ภาค 4 สั่งสอบจนท.แชทหาหญิงกักตัวเชิงชู้สาว
โดยฝ่ายชายใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า "staf" ทักเข้ามาพูดคุยด้วยข้อความเชิงชู้สาว และไม่เหมาะสม เช่น “ทักนะคนสวย” “อยู่เตียงเท่าไหร่ครับ” “จะเอาอะไร ฝากผมได้นะครับ” และยังชักชวนให้มามีเพศสัมพันธ์ด้วย
ทั้งนี้แต่หญิงสาวคนดังกล่าวตอบกลับไปว่า "พูดอะไรช่วยให้เกียรติผู้หญิงด้วย” “เป็นเจ้าหน้าที่ทำไมดูถูกผู้หญิงแบบนี้" แถมเธอยังระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ได้พูดแบบนี้กับทุกคน สุดท้ายเธอจึงตัดบทการสนทนาโดยบอกว่าเธอมีสามีแล้วและขอให้อีกฝ่ายหยุดพฤติกรรมนี้
ขณะที่การตรวจสอบพบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน จึงเข้าพักอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ ซึ่งจะครบกำหนดกักตัวในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ โดยภายในสถานที่กักตัวมีผู้หญิงพักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 180 คน
เพื่อนของผู้เสียหาย เล่าว่า ตนและเพื่อนเล่นแชทผ่านแอพพลิเคชั่น badoo เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน มีคนทักเข้ามาคุย เริ่มต้นก็พูดคุยกันธรรมดา หลังจากนั้นก็ใช้คำพูดเชิงชู้สาวแล้วก็ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ เชิญชวนนัดไปเจอกัน ฝ่ายหญิงเห็นท่าไม่ดีจึงบอกว่ามีสามีแล้ว หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ไปแชทคุยกับคนอื่นในศูนย์กักตัวอีกประมาณ 3 คน ทำให้รู้สึกกลัวว่าคนที่แชทมาจะเป็นเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯ เพราะรู้ความเคลื่อนไหว จึงเป็นห่วงว่าจะไม่ปลอดภัย
ด้านนายเอกรัตน์ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สั่งให้ นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในศูนย์กักกัน พบว่าผู้รับผิดชอบเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ และอาสาสมัคร ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจอยู่ภายในศูนย์ฯ และเมื่อดูรูปโปรไฟล์ของชายที่ใช้ชื่อว่า "staf" ก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ในศูนย์ด้วย จึงเชื่อว่าชายคนดังกล่าว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ในศูนย์ฯ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้าของข้อความเป็นใครกันแน่ และเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนหาตัว
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 12 มิ.ย. 63
อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 12 มิ.ย. 63
ด้านพันเอกวัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า บอกว่าหลังเกิดเรื่องได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมีตัวตนจริง
โดยสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่น “badoo” โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Staf” และใช้รูปของ อาสาสมัครทหารพรานปฐมพงศ์ พรหมศรี สังกัดกรมทหารพรานที่ 48 เป็นรูปโปรไฟล์ ทางหน่วยจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักและใช้โปรแกรมดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์ผ่านทาง Apple Id พบว่าเจ้าตัวไม่เคยเข้าใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจริง เพราะหากมีการใช้จริงในระบบจะยังคงบันทึกประวัติข้อมูลไว้อยู่ ปัจจุบันเจ้าตัวได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้องเพื่อเป็นหลักฐานแล้ว
นอกจากนี้ ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพล โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว รวมไปถึงการปฏิบัติตนตามแบบธรรมเนียม และวินัยทหารอย่างเคร่งครัด หากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อน ขอให้แจ้งหน่วยต้นสังกัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสม