“ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” อดีตนักการเมือง ผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจสถานบันเทิง เคยเป็นเจ้าของธุรกิจที่เจ้าตัวนิยามว่า “เพศ พาณิชย์” เคยเป็นเจ้าของสถานบริการอาบอบนวด ชื่อดัง 6 แห่ง บนถนนรัชดาภิเษก จนได้ฉายา “เจ้าพ่ออ่าง”
ชูวิทย์แฉอาบอบนวดแอบใช้น้ำบาดาลมาเป็น 10 ปีแล้ว
แม้จะล้างมือในอ่างทองคำ ขายกิจการ อาบ อบ นวด ไปแล้วหลายปี แต่เมื่อมีประเด็น เรื่องนี้ทีไร “ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” คือคนที่สามารถสะท้อน เรื่องจริง เสนอแนวคิดเรื่องนี้ได้อย่างถึงกึ๋น
“ชูวิทย์” บอกว่า สมัยที่เขายังอยู่ในธุรกิจนี้ 6 สถานบริการ มีพนักงานที่ต้องดูแลรวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6,000 คน
เขาบอกว่า ในประเทศไทย มีลูกจ้าง พนักงาน คนทำมาหากินในธุรกิจสถานบันเทิง ไม่เจาะจงเฉพาะอาบ อบ นวด นับล้านคน นับแต่ ล็อกดาวน์ ปิดกิจการชั่วคราวในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด - 19 ร่วม 4 เดือน มูลค่าเม็ดเงินที่หายไป หลักแสนล้าน เพราะธุรกิจนี้กำไรมหาศาล และส่วนหนึ่งนั่นเพราะมากกว่าครึ่งของรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศไทย หมุนเวียนอยู่มีธุรกิจประเภทนี้
รัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ออกมาตรการคลายล็อกเฟส 5 เผยแนวทางตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 มาแล้ว โฟกัสที่การเปิด สถานบริการ ผับ บาร์ ร้านเกมส์ อาบอบนวด โรงน้ำชา ดีเดย์วันที่ 1 กรกฎาคม
มาตรการสถานบันเทิง New normal มาตรการหลัก ตามมาตรฐานคือต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง 1 เมตร มีฉากกั้น ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน ห้ามแจมข้ามโต๊ะ เต้น ร้องในพื้นที่จำกัด และเป็นที่พูดถึงทำนองคล้ายตลกร้ายสังคมไทยคือ อาบ อบ นวด สถานบริการที่คนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าบริการอะไร แต่มาตรการที่ออกมา ตั้งการเว้นระยะ การสวมหน้ากสกเว้นตอนอาบน้ำ และที่สำคัญต้องลงทะเบียนแอปพลิเคชันไทยชนะ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างอารมณ์ขัน
เปิดเงื่อนไขปลดล็อก“ผับ-อาบอบนวด” ยืน-นั่งห่าง 1 เมตร เว้นขณะอาบน้ำ ย้ำ ต้องลงทะเบียนแอปฯ“ไทยชนะ”
ศบค.เตรียมเปิดตัว แอปฯ "ไทยชนะ" สแกนเช็กอิน-เช็กเอาท์
ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ตั้งข้อสังเกตุว่า นี่แหละประเทศไทย ที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง!?
“ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” ให้สัมภาษณ์ PPTV HD36 ตรงไปตรงมาตามสไตล์ ฉะมาตรการคลายล็อก มาตรการหลัก มาตรการเสริม ที่กำหนดมาให้กับธุรกิจบริการเพื่อความบันเทิงเริงรมย์ ที่สำหรับเขา มองว่า แต่ละมาตรการมันช่างสวนทางกับ “โลกของความเป็นจริง”
เขาให้เวลาไม่เกิน 5 วัน มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่ผู้เกี่ยวข้องออกมา มันก็จะหละหลวมเหมือนมาตรการคลายล็อกอื่นที่ผ่านๆมา และปล่อยฟรี เป็นไปตามวิถีของธุรกิจเข้าสังคมของธุรกิจบันเทิงและอาบอบนวด แต่ก็เข้าใจ ในสถานการณ์นี้ จำเป็นต้องมีมาตรการ แม้สำหรับเขามองว่า มันทำไม่ได้ในความเป็นจริงเลยก็ตาม
สำหรับ “อดีตเจ้าพ่ออ่าง” ที่ปัจจุบันวางมือ และหันมาจับธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว บอกว่า ถึงเวลาที่ต้องเปิดให้กิจการสถานบันเทิง อาบอบนวด เดินต่อเสียที และหากตัดสินใจเปิดขอให้เปิดแบบไม่จำเป็นต้องมีมาตรการที่คล้ายย้อนแย้งกับความเป็นจริงมากั๊ก และควรถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะทำให้ธุรกิจเทาๆอย่างอบ อบ นวด ขึ้นมาอยู่บนดินเข้าระบบ เพื่อให้พนักงานในธุรกิจนี้ มั่นคงขึ้น เข้าสู่ระบบประกันตน คืนภาษีให้รัฐ กล้าที่จะฉวยโอกาสจากวิกฤต
พร้อมตั้งคำถามความเห็นส่วนตัวไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่ามากกว่า 31 วัน ต่อเนื่องที่ไทยปลอดผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นปัจจัยบวกมากพอหรือไม่ ที่จะเปิดฟรี ให้ธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจสถานบริการ ดำเนินไปได้ตามวิถีปกติ
“อย่าสร้างความกลัว กลัวโควิด-19 กลัวการมาระลอก 2 จนอะไรไปต่อไม่ได้ เพราะตอนนี้ วงจรที่เกี่ยวข้อง อยู่ในซัพพลายเชนของธุรกิจสถานบันเทิง ท่องเที่ยว กำลังพากันดิ่งลง จนกระทบไปหมดแล้ว” ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ฝากให้คิดและบอกเป็นจุดที่ต้องเลือก
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์" กับคำถาม คำตอบ ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนมาตรการคลายล็อกเฟส 5 เล่าเรื่องจริงที่สังคมไทยๆไม่กล้าจะยอมรับ ยังฝากข้อคิดที่เกิดจากวิกฤตโควิด-19 ได้น่าสนใจ