จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งว่า ประกาศ “เรียงช่อง” ของ กสทช. ปี 2558 เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย จนอาจเกิดผลกระทบต่อผู้ชมโทรทัศน์และผู้ประกอบการ
เรียงช่องทีวีดิจิทัลใหม่ กระทบผู้ชม ทำประชาชนสับสน
ล่าสุด ดร.สิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระด้านสื่อโทรทัศน์ สื่อดิจิทัลและสื่อใหม่ เปิดเผยถึง สาเหตุการพิจารณาของศาลปกครอง ระบุว่า มาจากการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่ไม่ชัดเจน ครั้งแรกในปี 2556 และประกาศใหม่ในปี 2558 ทำให้มีข้อขัดแย้งกัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของผู้กำกับดูแลอย่างสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จนเกิดผลกระทบทั้งผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ดาวเทียม และผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ซึ่งครั้งแรกก็เสียเวลาในการเรียงช่องไปกว่า 3 ปีแล้ว ถัดมาคือหลังจากนี้หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็จะมีความสับสนวุ่นวายเกิดขึ้นอีก
เพราะฉะนั้นสาเหตุของปัญหาคือการดำเนินนโยบายของผู้กำกับดูแลมากกว่า ที่ผ่านมาศาลปกครองก็ตัดสินแล้วว่าการดำเนินนโยบายของผู้กำกับดูแล ไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมาย จึงมีปัญหาในส่วนตรงนี้ ประกาศฉบับเก่ามีการเว้นพื้นที่ไว้ให้ผู้ประกอบการเคเบิ้ลและดาวเทียมประกอบธุรกิจ และเมื่อ 6-7 ปีก่อนก็จะมีดราม่า ทำไมต้องไปต่อท้ายเลข 10 จนไปถึง 36 ช่อง จนเป็นความสับสนวุ่นวายในเวลานั้น
สำหรับผลกระทบในระยะสั้น คือ การทำให้ผู้ชมจดจำหมายเลขช่องได้ เพราะเป็นเรื่องยากลำบากมากๆ ต้องมีการลงทุนโปรโมทจำนวนมาก และที่สำคัญคือผลกระทบกับประชาชนคนดูที่ต้องปรับเปลี่ยนช่องทีวีที่บ้านอีกครั้ง จนเกิดความสับสนวุ่นวาย ส่วนทางออกของปัญหาของ กสทช.ที่พยายามออกกฎระเบียบฉบับใหม่ ดร.สิขเรศ มองว่า ควรแก้ไขให้เกิดความชอบธรรมทางด้านกฎหมาย และความเป็นธรรมทางธุรกิจ โดย กสทช.ต้องจัดให้มีการพูดคุยกันในอุตสาหกรรมทีวี เพราะหากไม่สามารถหาจุดตรงกลางของทุกฝ่าย จะเกิดผลกระทบกับอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก เกิดการฟ้องร้องกันไม่จบสิ้น ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมก็ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของ บริการจากแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่แล้ว
ฉะนั้น บทบาทของ กสทช.ที่เป็นผู้กำกับดูแล ต้องใช้การพูดคุย มากกว่าการบังคับ เพราะที่ผ่านมาก็มีให้เห็นว่าการบริหารนโยบายผิดพลาดไปแล้ว ต้องปล่อยให้อุตสาหกรรมคุยกัน รวมถึงควรกลับไปทบทวนตัวเองถึงแนวทางการกำกับดูแล จากการออกประกาศฉบับใหม่อาจใช้เป็น การลงนาม MOU ทดแทน ผ่านการใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก็อาจเป็นช่องทางที่มีประโยชน์มากกว่า
ทั้งนี้เบื้องต้น กสทช.จะมีการจัดประชุมรับฟังความเห็นในกลุ่มทีวีดิจิทัล และโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ในวันอังคารที่ 4 ส.ค. 2563 และศาลปกครองสูงสุดเตรียมนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ หลังมีการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง
สมาคมทีวีดิจิตอลฯ เผย เรียงช่องทีวีใหม่ อาจทำคนดูหาช่องไม่เจอ