ป.ป.ช.พบเส้นทางการเงิน"สินบน"คดีเหมืองอัครา
“ถาวร” แฉทุจริต "การบินไทย" วัดใจ ป.ป.ช.
หลังจากที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้กลุ่มบริษัท คิงส์เกตฯ ได้ประโยชน์ในการสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่ จ.สระบุรี จ.เพชรบูรณ์ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก
ล่าสุดพบว่ามีข้อมูลจากอีเมลที่เชื่อมโยงเส้นทางการเงินเข้ามาจริง มีการพักเงินที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการ โดย ป.ป.ช.กำลังเร่งสืบหาเส้นทางการเงินดังกล่าวกับบัญชีอีเมลปลายทาง เพื่อดำเนินคดีต่อบุคคลที่มีชื่อปรากฏในอีเมลฉบับนี้
ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) แสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า หากเป็นไปตามข้อมูลของที่ ป.ป.ช. และมีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจน ก็มีโอกาสที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. เคยมีการชี้มูลความผิดและดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงไปแล้วบางส่วน และหากดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐของไทยได้ ก็จะสามารถดำเนินคดีกับบริษัทต่างชาติในฐานะที่ทำการติดสินบนเจ้าพนักงานได้ด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มีว่าจะมีน้ำหนักมากเพียงใด ซึ่งเป็นที่น่ากังวลเพราะส่วนใหญ่แล้วคดีที่มีการติดสินบนเจ้าพนักงานมักหาหลักฐานมัดตัวไม่ได้
ส่วนในเรื่องของการต่อสู้คดีที่บริษัท คิงส์เกต ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 22,672 ล้านบาท จากการสั่งปิดเหมือง ซึ่งเป็นการละเมิดตามข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน มองว่ามีโอกาสสูงที่บริษัทเอกชนจะชนะการฟ้องร้อง เพราะเป็นการสั่งปิดโดยให้เหตุผลเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่การทำสัญญาโดยมิชอบตั้งแต่ต้น รวมทั้งใช้มาตรา 44 ในการสั่งปิดโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้บริษัทต่อสู้หรือชี้แจง