​โลกระอุ! นักวิชาการชี้ "สงครามเกิดขึ้นแล้ว" ห่วงไทยระบบป้องกันก่อการร้ายอ่อนแอ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นักวิชาการระบุสงครามเกิดขึ้นแล้ว เป็นลักษณะใช้ทหารน้อย ใช้เครื่องบินรบ-โดรนลดการสูญเสียกำลังพลฝ่ายตัวเอง พร้อมเผย 3 รูปแบบก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ขณะที่สหรัฐฯปราบไอซิสไม่จริงจัง มีนัยยะว่าได้ประโยชน์จากสงคราม อีกทั้งยังมีลักษณะหนุนกองกำลังไอซิส-กลุ่มกบฎต้านรัฐบาลซีเรีย ขณะที่ไทยน่าห่วง ภาพรวมการป้องกันการก่อการร้ายยังอ่อนแอ



หลังเกิดเหตุโศกนาฎกรรมในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมากเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 58 จนสะเทือนขวัญไปทั่วโลก รวมถึงปรากฎการณ์ไล่ล่าจับผู้ต้องสงสัยโจมตีกรุงปารีส จนปิดพรมแดนและเมืองของบรัสเซลส์ ยุโรปหลายแห่งออกมาตรการควบคุมพรมแดน และรักษาความปลอดภัยกันอย่างหนาแน่น ขณะที่สถานทูตแต่ละประเทศออกคำเตือนเดินทางไปยังสถานที่ที่คนพลุกพล่านของฝรั่งเศส และอีกประเทศที่อยู่รายล้อม




ขณะเดียวกันผลสอบเครื่องบินรัสเซียตกที่คราบสมุทรไซนายของอียิปต์ถูกเปิดเผยออกมาว่า เกิดจากการโจมตีด้วยระเบิดที่ซุกซ่อนขึ้นไปบนเครื่องบิน โดยทั้งหมดนั้น กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส อ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ พร้อมโชว์หลักฐานและวิธีการนำระเบิดระดังกล่าวขึ้นเครื่องบิน ส่งผลให้ผู้นำรัสเซียและฝรั่งเศสจับมือบุกทิ้งระเบิดลงฐานที่มั่นไอซิสในซีเรียในหลายแห่งนับตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้




ยิ่งไปกว่านั้นจุดที่ทำให้โลกร้อนระอุขึ้น เมื่อเครื่องบินรบรัสเซีย SU-21 ที่โจมตีรถบรรทุกน้ำมันของกลุ่มไอซิสไล่ล่าเข้ามาใกล้พรหมแดนตุรกี-ซีเรีย จนถูก F-16 ของตุรกียิงตก โดยทางตุรกีอ้างว่า รัสเซียรุกล้ำน่านฟ้า และออกคำเตือนนับสิบครั้งก่อนเข้าโจมตี จนทำให้นักบินที่ดีดตัวออกมาจากเครื่องบินรบทั้งสองคนรอดชีวิตเพียงรายเดียว ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกร้าวถึงเหตุการโจมตีดังกล่าว "ถือเป็นการแทงข้างหลัง และสมรู้ร่วมคิดกลุ่มก่อการร้าย" พร้อมยืนยันว่าไม่ได้รับคำเตือนใดๆ แล้วประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับตุรกีที่ครอบคลุมการนำเข้าสินค้า ธุรกิจท่องเที่ยว และห้ามธุรกิจรัสเซียจ้างงานชาวตุรกี


เมื่อโลกระอุด้วยฝีมือของกลุ่มที่อ้างว่าลงมือกระทำอย่าง "ไอซิส" จนปั่นป่วนไปทั้งตะวันออกกลาง รวมถึงยุโรปเองที่เป้าโจมตีของกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน จนหลายคนต่างตั้งคำถามว่า จากเหตุการณ์เหล่านี้สงครามโลกครั้งที่ 3 กำลังจะคืบคลานเข้ามาหรือไม่



ชี้สงครามในอนาคตไม่ใช่แบบ ครั้งที่ 1 - 2


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "ปัจจุบันสงครามได้เกิดขึ้นแล้ว" แต่เป็นลักษณะใช้ทหารให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันจะเป็นสงครามที่เน้นเครื่องบินรบโจมตี หรือโดรน ที่ทหารฝ่ายตัวเองจะไม่เสียชีวิต หรือเสียชีวิตน้อยที่สุด


ทั้งนี้ข้อจำกัดทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการเมืองและสงครามที่จะเกิดในอนาคตจะไม่ใช่สงครามโลกแบบครั้งที่ 1 หรือ 2 เพราะปัจจุบันมีผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย ไม่เหมือนสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ฉะนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าสงครามที่จะทำในโลกเสรีนิยมใหม่จะทำได้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะยังไม่มีความคุ้นเคย


"วิธีจัดการไอซิสที่ดีที่สุดคือ ต้องไม่เดินเกมตามเขา ส่วนมหาอำนาจก็ต้องเลิกมือถือสากปากถือศีล ต้องปฏิรูปสหประชาชาติ แล้วทำให้คนมีความหลากหลายมากขึ้น" ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรัตน์ กล่าว




ชี้ศัตรูกับศัตรูเป็นมิตรกันได้ เชื่ออาจเป็นสงครามการค้า


ศาสตราจารย์ ดร.จรัญ มะลูลีม หัวหน้าสาขาวิชาการต่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่เหตุการณ์ในซีเรียสะท้อนให้เห็นว่าศัตรูของศัตรูเป็นมิตรกันได้ สหรัฐฯ พันธมิตรอาหรับ รัสเซีย และอื่นๆ ไปต่อต้านไอซิส ซึ่งตนมองแล้วน่าจะไม่ถึงขั้นจะทำให้เกิดสงคราม แต่ถ้าเป็นสงครามการค้าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า


นอกจากนี้ ดร.จรัญ กล่าวว่าการที่สหรัฐปราบไอซิสมีนัยยะแฝงอยู่ เหมือนสหรัฐฯอยากให้สงครามมีอยู่ต่อเนื่อง เพราะมีผลประโยชน์จากสงครามหรือไม่ ทำไมสหรัฐทิ้งระเบิดมาแล้ว 13 เดือน แต่ไม่สามารถจัดการไอซิสได้ แต่เมื่อรัสเซียลงมือกลับเห็นผล


หัวหน้าสาขาวิชาการต่างประเทศ กล่าวอีกว่าสหรัฐเป็นผู้สนับสนุนกองกำลังฝ่ายต้านรัฐบาลซีเรียและไอซิส ซึ่งตนมองว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ตั้งใจเอาชนะไอซิสอย่างจริงจัง แค่อยากเหนือกว่ากองกำลังซีเรีย ขณะที่การก่อการร้ายในฝรั่งเศสที่เกิดขึ้นเกิดจากฝรั่งเศสเป็นหัวหอกสำคัญของนาโต้ในการถล่มลิเบีย และหัวหอกถล่มไอซิสอย่างหนัก รวมถึงนโยบายที่ไม่ได้ใจกว้างต่อชาวมุสลิม



เปิดวิจัยชิคาโก้ชี้แรงจูงใจนักรบพลีชีพไม่ใช่ศาสนา


ดร.ศราวุธ อารีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไอซิสเป็นกลุ่มกำเนิดขึ้นมาใน 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ฮือฮาของโลก เนื่องจากต่างจากอัลกออิดะห์ ขณะที่งานวิจัยของชิคาโก้ เปิดเผยถึงแรงจูงใจนักระเบิดพลีชีพ พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้เกิดจากการแทรกแซงของมหาอำนาจ การตั้งกองทัพสหรัฐฯ ไม่ใช่ศาสนา ทั้งนี้การที่มหาอำนาจอย่าง ฝรั่งเศส สหรัฐฯ รัสเซีย ทิ้งระเบิดที่ซีเรีย รวมถึงอังกฤษเองเตรียมลงมติว่าจะโจมตีหรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้แก้ปัญหาก่อการร้ายที่แท้จริง แต่กลับจะทำซับซ้อนขึ้น


นอกจากนี้ ดร.ศราวุธ กล่าวว่า หลายคนมองว่าคนยุโรปไปร่วมไอซิสมีแนวคิดอิสลามและสุดโต่ง แต่แท้จริงแล้วปัญหาเกิดจากการบูรณาการในสังคมยุโรป ซึ่งสังคมมุสลิมยุโรปไม่เข้ากับสังคมใหญ่จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น


ทั้งนี้ ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า ตนเคยไปซีเรีย สัมผัสได้ว่าคนซีเรียคุยสนุกมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง หากคุยถามเรื่องการเมืองปิดปากเงียบ ขณะที่หน่วยความมั่นคงในทั้งยุโรป รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างหวาดระแวง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่นำไปสู่แนวคิดไอซิสอยู่ที่ปัญหามุสลิมแต่ละท้องที่ ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทยไม่ต้องหวาดระแวงมากนัก แต่ก็เฝ้าระวังของประเทศไทยเป็นคนละปัจจัย



เผย "สิงคโปร์" น่ากลัวสุด หากระเบิดลง ไปทั้งเกาะ


ในส่วนของภาพรวมทางเอเชียใต้ นาวาอากาศเอก ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้อำนวยการกองภูมิภาคศึกษา ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เปิดเผยว่า การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ที่ปรากฎเป็นข่าวเกิดเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งกระทบทุกมิติทั้งความมั่นคง ประเทศชาติ ระดับของสังคม ด้านอากาศยาน ท่องเที่ยว เศรษฐกิจ รวมถึงการขนส่ง และการสื่อสาร ซึ่งกระทบไทยแน่นอนเพราะเป็นปฏิบัติการข้ามชาติแบบทางอ้อม ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งไทยให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว อย่างที่ผ่านมาไทยเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เอราวัณ ก็ต้องรีบแก้ไขโดยทันที เพราะส่งผลกระทบต่อคนค่อนข้างมาก แต่ที่น่าห่วงคือสิงคโปร์เพราะมีสภาพเป็นเกาะ หากระเบิดลงทีเดียวก็จะเสียหายมาก


นาวาอากาศเอกภูมิใจ กล่าวว่า แนวโน้มการก่อการร้ายในเอเชียในอนาคตที่จะทำให้ยากต่อการป้องกัน มี 3 ประเด็น คือ

1.การเกณฑ์คน และการเผยแพร่แนวความคิดรุนแรงผ่านโซเซียลมีเดีย ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากการก่อร้ายรูปแบบนี้เกิดขึ้นในอาเซียน คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะใน 3 ประเทศคือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เนื่องจากมีคนเดินทางไปร่วมขบวนการดังกล่าวตลอดทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ส่วนใหญ่อายุประมาณ 14-15 ปี


2.มีแนวโน้มว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะสูญเสียเครือข่ายที่เคยให้ความร่วมมือในระดับพื้นที่ ส่งผลให้ยากต่อการสอบถามบุคคลผู้กระทำความผิด


3.การกลับมาของนักรบที่เข้าไปอยู่พื้นที่รบมาก่อน โดยแม้กลุ่มนี้ถูกจับเข้าไปแต่บางส่วนยังไม่ปลดแนวความคิด และไปเผยแพร่แนวความคิดนี้ต่อเนื่องไปอีก ซึ่งอาจจะเผยแพร่ต่อไปได้อีก 10 -20 ปี ข้างหน้า


รับภาพรวมการป้องกันก่อการร้ายของไทยยังอ่อนแอ


ผู้อำนวยการกองภูมิภาคศึกษา กล่าวอีกว่าล่าสุดมีโครงการการฟื้นฟูแนวความคิดเชิงรุนแรง สำหรับคนที่ไปสู้รบแล้วถูกจับ หรือมามอบตัว โดยมีอยู่หลายประเทศเข้าไปมีส่วนร่วมสำคัญในประชาคมด้วยซึ่งคาดว่าจะแก้ปัญหาได้จริง ได้แก่ อียิปต์ทำตั้งแต่เกิดเหตุ 9/11 ซึ่งทำกับกลุ่มหัวรุนแรง และทำมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมี ซาอุฯ เยเมน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อุซเบกิสถาน ศรีลังกา ปากีสถาน อิรัก โซมาเลีย และอินโดนีเซีย ทำแล้วประสบความสำเร็จ ขณะที่สหรัฐฯไม่ได้สนับสนุนแนวความคิดนี้ ด้านอังกฤษ มัลดีฟ โมร็อกโก ออสเตรเลีย ยังไม่ประสบความสำเร็จ


"โครงการฟื้นฟูแนวความคิดกลุ่มหัวรุนแรง ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มตรงนี้ ภาพรวมของการป้องกันเรายังอ่อนแออยู่ เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้และเราจะตั้งรับอย่างไร หากพื้นที่ในตะวันออกกลางโดนตีแตกจริงๆ รับรองว่าคนเหล่านี้จะออกมาแน่นอน และจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพราะประเทศไทยเข้าออกง่ายนี่คือเรื่องจริง" ผู้อำนวยการกองภูมิภาคศึกษา กล่าว


รายงานโดย ภัทร์ธีรา แก้วบุญเรือง

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ