เครือข่ายส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ เผยแพร่รายงานดัชนีความสุขประจำปี 2016 โดยพิจารณาจัดอันดับจากสภาพเศรษฐกิจ สภาพความเป็นอยู่ สุขภาพกาย สุขภาพจิต นโยบายสาธารณะ รวมถึงปัญหาทุจริต จากทั้งภาครัฐและเอกชน ปรากฎว่า ปีนี้ เดนมาร์ก เอาชนะแชมป์หลายสมัยอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นมาเป็นประเทศที่มีความสุขและมีความเป็นอยู่ดีที่สุดในโลก อันดับ 3 เป็นของไอซ์แลนด์ ตามด้วยนอร์เวย์ และฟินแลนด์ โดย 10 อันดับแรกของปีนี้ เหมือนกับ 10 อันดับแรกของปีที่แล้ว เพียงแต่มีการสลับลำดับกันเล็กน้อย ขณะที่ประเทศไทยเรา ปีนี้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 33 เป็นรองฝรั่งเศส ซึ่งอยู่อันดับที่ 32
ส่วนอันดับประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่
13. สหรัฐฯ
23. อังกฤษ
53. ญี่ปุ่น
83. จีน
118. อินเดีย
ส่วนประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดจากทั้งหมด 157 ประเทศ ได้แก่ เบนิน อัฟกานิสถาน โตโก ซีเรีย และบุรุนดี ซึ่งอยู่อันดับสุดท้าย
จากรายงานดังกล่าว สรุปได้ว่า ประเทศที่มีความเท่าเทียมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ประชากรจะมีความพึงพอใจในชีวิตมากกว่า ฉะนั้น สิ่งที่แต่ละประเทศควรให้ความสำคัญ ก็คือ นโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียม รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน