วันนี้ (6 ก.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า ตั้งโครงการ "จากกันด้วยใจ" โดยอ้างว่าต้องการปรับลดพนักงานในส่วนลูกจ้างเหมาค่าแรงที่มีอยู่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ให้สมัครใจลาออก ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 13 ก.ค. และจะให้เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
ล่าสุดทีมข่าวPPTV ได้รับข้อมูลจากนายวิสุทธิ์ เรืองฤทธิ์ รองประธานสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ว่า มีพนักงานบางส่วนไม่เต็มใจออก โดยอ้างว่าที่ต้องทำเพราะสถานการณ์กดดัน และพบว่า เฟซบุ๊กของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการบางส่วนโพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อว่า บริษัทมีปัญหาภายใน และจะนำเงินชดเชยที่ได้ไปสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ ส่วนการดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบและบริษัทยานยนต์อื่นๆ ทางสหพันธ์ยานยนต์ฯจะคอยตรวจสอบอยู่เป็นระยะ เพราะ ขณะนี้เริ่มมีปรากฏการการเปิดโครงการสมัครใจลาออกทั้งส่วนของลูกจ้างประจำและพนักงานเหมาค่าแรง โดยจะดูเรื่องสิทธิของลูกจ้างเรื่องสิทธิแรงงาน และความเป็นธรรม
ด้าน นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มองว่า ปัญหาของโตโยต้าที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ควรวางเเผนเชิงรับเนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงสะสมต่อเนื่องมา 2ปี เเละ โตโยต้าเริ่มส่งสัญญาณให้ธุรกิจไทย ปรับตัวมากขึ้นถึงโครงสร้างการผลิต เป็นผลมาจากต้นทุนค่าเเรงสูงขึ้น ทำให้หลายธุรกิจหันมาใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรมากขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาณที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องเพิ่มการระวังปัจจัยเสี่ยงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะ ความต้องการของตลาดที่ลดลง สภาวะเศรษฐกิจไทย ขาดเเคลนวัตถุดิบ ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เเละการเเข่งขันของธุรกิจที่สูงขึ้นด้วย โดยเสนอให้ธุรกิจเอกชนโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ควรปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ ให้มีความแตกต่างจากตลาดเดิม และต้องลงทุนเเค่ระยะสั้น ควรรอดูผลประกอบการไตรมาส 3 ถึง 4 ว่ากำลังซื้อจะออกมาในทิศทางใด