กสม. แนะ สธ. จับมือ กรมราชทัณฑ์ พัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้ต้องขัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แนะกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกรมราชทัณฑ์ พัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำ ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

นพ.สุรเชษฐ์  สถิตนิรามัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิผู้สูงอายุ ผู้พิการ บุคคลหลากหลายทางเพศ และการสาธารณสุข กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องจำเป็นต่อสังคมโลก และมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทุกภาคส่วนมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม อันเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และกฎหมายภายในประเทศ แม้ผู้ต้องหาในเรือนจำจะเป็นผู้กระทำความผิด ที่อยู่ระหว่างการถูกลิดรอนสิทธิและเสรีภาพบางประการ แต่ก็ต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความมีมนุษยธรรม และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป และย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไปแม้ผู้ต้องขังเป็นชาวต่างชาติก็ตาม

ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ของผู้ต้องขังในเรือนจำให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2558 หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องอัน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ควรจัดให้โรงพยาบาลในเขตที่ตั้งของเรือนจำ มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เข้ามาดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำอย่างเพียงพอ เช่น จัดแพทย์เฉพาะทางเข้ามาตรวจรักษาเป็นครั้งคราว หรือจัดแบ่งเป็นวัสดุ เวชภัณฑ์ หรือการให้บริการด้านอื่นๆ หากโรงพยาบาลในเขตพื้นที่ใดไม่มีศักยภาพ หรือกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขควรจัดอบรมให้ความรู้เบื้องต้น แก่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำเกี่ยวกับการให้บริการสาธารณสุข รวมทั้งจัดห้องไว้สำหรับผู้ต้องขังที่ถูกส่งต่อมาจากเรือนจำ และสถานที่สำหรับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ให้มีลักษณะเหมาะสมกับการควบคุมผู้ต้องขังไม่ให้หลบหนี

ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ ควรมีการจัดการและการประสานงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งผู้ต้องขัง ไปรับบริการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล โดยให้มีช่องทางพิเศษ เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในการควบคุม พร้อมทั้งจัดระบบบริการรักษาพยาบาล กรณีมีผู้ต้องขังเจ็บป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และควรมีการคัดกรองโรคติดต่ออย่างสม่ำเสมอ ให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เช่น ผู้ต้องขังที่เป็นโรคเรื้อรัง ที่สำคัญจัดการดูแลด้านสุขภาพจิตหรือจิตเวชของผู้ต้องขัง และให้ผู้ต้องขังดังกล่าวได้รับยาและเวชภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

“กระทรวงสาธารณสุข และกรมราชทัณฑ์ ควรมีการจัดทำระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เชื่อมต่อระหว่างสถานพยาบาล และเรือนจำกรณีมีผู้ต้องขังที่ต้องรับการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เฉพาะทาง และเชื่อมฐานข้อมูลของผู้ต้องขังกับฐานข้อมูลของ สปสช. เพื่อโอนย้ายสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังในเรือนจำ จากภูมิลำเนาเดิมไปยังโรงพยาบาลในเขตที่ตั้งของเรือนจำ” 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ