วันนี้ (6 ก.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร รับแจ้งจาก นายชัยพันธ์ ศรีคชไกร ผู้จัดการตลาดศูนย์การค้า จ.กำแพงเพชร ว่า พบธนบัตรราคา 500 บาท ปลอมระบาดในตลาด และสามารถควบคุมตัวนางธิดารัตน์ พร้อมด้วยธนบัตรชนิดราคา 500 บาท ปลอมจำนวน 2 ใบ ลักษณะเป็นการถ่ายเอกสารสี ไม่ชัดเจน เนื้อกระดาษเปื่อยยุ่ย แถบลายเส้นเงินไม่สะท้อนแสงในวงกลม ไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ขนาดเล็กและสั้นกว่า โดยมีผู้เสียหาย 2 ราย คือแม่ค้าขายขนมครก และพ่อค้าขายหมู มายืนยัน
โดยนางธิดารัตน์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนมาซื้อของพร้อมกับจ่ายธนบัตร 500 บาทให้ ต่อมาก็มีคนขอแลกธนบัตร และมาซื้อของอีกทั้งหมดเป็นเงินธนบัตร 500 บาทหลายใบ โดยตนไม่ทราบว่าเป็นของปลอม จากการตรวจสอบเงินในกระเป๋าของนางธิดารัตน์ พบธนบัตรฉบับละ 500 บาท ตัวจริงที่ใช้ถ่ายเอกสาร โดยมีตัวเลขตรงกันทุกอย่าง จึงนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่จังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอม ฉบับละ 1 ล้านดอลล่าร์ฯ จำนวน 200 ฉบับ, ฉบับละ 100 ล้านดอลล่าร์ฯ 5 ฉบับ ตั๋วแลกเงิน ฉบับละ 100 ล้านดอลล่าร์ฯ 2 ฉบับ, แผ่นเพลท แผ่นละ 500 ดอลล่าร์ 3 แผ่น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,200 ล้านดอลล่าร์ฯ หรือประมาณ 66,000 ล้านบาท หนังสือเดินทาง สปป.ลาว 2 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และทำการควบคุมตัวท้าวกองไซ สีมุนทา และ ท้าวอะพิสิด มุนทา สองพ่อลูกชาวเมืองสีสัดตะนาก แขวงนครหลวงเวียงจันทน์สปป.ลาว สำหรับธนบัตรดังกล่าว 2 ชาวลาวบอกว่า เอามาจากท้าวหล้า ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทอดหนึ่ง โดยเอามาจากเมืองหลวงน้ำทา ชายแดนรอยต่อกับประเทศจีน
ด้านพ.ต.อ.ไพศาล เผยว่า แม้นายกองไซสี จะนำธนบัตรปลอมเข้าประเทศมาเพื่อขายหรือจำนำต่อก็ตาม แต่เมื่อยังไม่มีผู้มารับซื้อถือว่าความผิดยังไม่สำเร็จจึงได้ทำทะเบียนประวัติขึ้นบัญชีดำไว้ และปล่อยตัวกลับประเทศไปโดยไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ส่วนของกลางได้ส่งให้ สภ.เมืองหนองคายเก็บไว้
เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีประเทศสหรัฐอเมริกามา รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่เคยพิมพ์ธนบัตรที่มีมูลค่าเกินกว่าฉบับละ 100 ดอลลาร์ ดังนั้นธนบัตรดังกล่าว จึงไม่สามารถใช้ได้อย่างแน่นอน คนที่ทำขึ้นน่าจะทำขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อย่างอื่น