วันนี้ (10 ก.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หนองน้ำธรรมชาติ หลังโรงเรียนท่าตูมประชาเสริมวิทย์ ชาวบ้านได้พากันหา “เทา” เพื่อนำมาทำอาหารโดยเฉพาะเมนู “ลาบเทา” ไว้รับประทาน โดยชาวบ้านบอกว่า “เทา” คือสาหร่ายน้ำจืดสีเขียวสด มีลักษณะเป็นเส้นเล็กยาวคล้ายผม มักอยู่ในหนองน้ำหรือแหล่งน้ำใสสะอาดและน้ำนิ่ง ในระดับน้ำไม่ลึก สามารถมองเห็นด้วยสายตาเกาะกลุ่มกันอยู่เป็นก้อนๆ
สำหรับเมนู “ลาบเทา” เครื่องปรุงที่สำคัญต้องมี หัวหอม ผักชี ต้นหอม ใบหูเสือ น้ำปลาร้า มะเขือต้ม ปลาทู ข้าวคั่ว พริกป่น และต้องไม่ใส่มะนาวหรือของที่มีรสเปรี้ยวเพราะจะทำให้เสียรสชาติและไม่อร่อย เมนู “ลาบเทา” ถือเป็นเมนูบ้านๆแบบธรรมชาติ ทำรับประทานกันในครอบครัว แต่มีประโยชน์มาก
จากการศึกษาของกลุ่มนักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่าเทา 10 กรัมจะมีโปรตีนค่อนข้างสูงถึง 20% มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 31% ให้เส้นใยสูงถึง 21% และยังมีวิตามินบีโดยเฉพาะ บี 2 ถึง 355 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม นอกจากนั้นมีกรดโฟลิก และกรดแพนโทธีนิก ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินที่สำคัญอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย จึงนับว่าเป็นอาหารให้คุณค่าที่มาจากพื้นบ้านอย่างหนึ่ง