"สาทร" คุมเข้มผู้ติดเชื้อ "ซิกา"

วันนี้ (12 ก.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ของไวรัสซิกาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อชุดแรก 7 ราย แต่รักษาหายและสามารถควบคุมโรคได้แล้ว

ต่อมาชุดที่ 2 พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่เขตสาทรติดเชื้อจากสามีชาวต่างชาติ 1 ราย แม้ขณะนี้คลอดลูกแล้วและทั้ง 2 คน สุขภาพแข็งแรงดี แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ กทม.ยังต้องลงพื้นที่สอบสวนโรค โดยค้นหาผู้ติดเชื้อในระยะรัศมี 100 เมตร จากที่พักอาศัยของผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยผลการตรวจเลือดพบว่ามีผู้ติดเชื้ออีก 21 คน ในจำนวนนี้ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อ 3 ราย ขณะนี้ได้เดินทางไปต่างจังหวัดอีกด้วย ทั้งนี้จึงได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้เฝ้าระวังโรคแล้ว ส่วนอีก 4 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่เขตอื่นๆ ของกรุงเทพฯ

แต่ทั้งหมดยังต้องเฝ้าระวังอาการต่อไปจนครบ 30 วัน หรือจนถึงปลายเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่มีอายุครรภ์ 6-7 เดือน ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดจนกว่าจะคลอด หากในระยะเวลา 1 เดือน ในพื้นที่เขตสาทรและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อไวรัสซิกา เพิ่มเติมอีก จะถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ ในการสอบสวนโรคในพื้นที่เขตสาทร กทม.ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจเลือดจากห้องปฏิบัติการของผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 36 ราย

ทั้งนี้ กทม. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กำจัดลูกน้ำยุงลายทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในจุดที่พบผู้ป่วยแล้ว รพร้อมทั้งรณรงค์เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงปัญหาและช่วยกันป้องกัน

อีกทั้งสั่งจับตาเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ที่ไปฝากท้องในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขในเขตกรุงเทพฯ 2.เด็กที่เพิ่งคลอดและสังเกตเห็นว่ามีศีรษะเล็กผิดปกติ 3.กลุ่ม ผู้ป่วยที่แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการปลายประสาทอักเสบ หรือเสื่อมผิดปกติ และ 4.กลุ่มผู้ป่วยที่มีไข้ ผื่น ปวดข้อ ตาแดง หากรายใดเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งให้ทำการซักประวัติเพื่อตรวจสอบว่าติดเชื้อไวรัสซิกาหรือไม่ เพื่อทำการรักษาต่อไป

ทางด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ประปรายในประเทศไทยและอาเซียน การตรวจจับและวินิจฉัยโรคทำได้รวดเร็วขึ้น โดยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ.ทั้ง 14 แห่ง พร้อมตรวจไวรัสซิกาใช้เวลาไม่เกิน 8 ชั่วโมง วันละไม่เกิน 50 ตัวอย่าง ส่วนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ.ตรวจได้วันละ 200 ตัวอย่าง อีกทั้งเมื่อพบเด็กคลอดแล้วสงสัย ให้ส่งตรวจด้วยเทคนิคเดียวกัน