พระราชประวัติรัชกาลที่ 10 (คลิป)
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
สำหรับพระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2495 เวลา 17 นาฬิกา 45 นาที
เมื่อทรงเจริญพระชนมายุครบ 20 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร”
ด้านการศึกษาทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นในระดับอนุบาล รุ่นที่ 2 จากโรงเรียนจิตรลดา จึงเสด็จไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นทรงศึกษาต่อวิชาทหาร แล้วต่อในระดับปริญญาตรี สาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) ประเทศออสเตรเลีย แล้วเสด็จนิวัติประเทศไทยเพื่อทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46 โดยเข้าศึกษาในสาขาวิชานิติศาสตร์ รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) และปี พ.ศ. 2533 ทรงเข้ารับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นพระราชโอรสที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพในหลายๆ ด้าน ทรงมีพระอัธยาศัยรักการผจญภัย ทั้งการทรงม้า ฟุตบอล รักบี้ฟุตบอลและ เรือพาย รวมทั้งยังสืบทอดพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี จากพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงโปรดปรานการเป่าแซกโซโฟนมากเป็นพิเศษ และทรงดนตรีร่วมกับพระราชบิดาอยู่บ่อยครั้ง
นับแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงมีอุปนิสัยโปรดความมีระเบียบวินัยและสนพระราชหฤทัยในกิจการเกี่ยวกับกองทัพ นับแต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2518 ทรงเข้ารับราชการเป็นนายทหารประจำกรมข่าวทหารบก กระทรวงกลาโหม ทรงพระวิริยะอุตสาหะในการเพิ่มพูนความรู้และพระประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในด้านวิทยาการการบิน ทรงเชี่ยวชาญการบินในระดับสูงเป็นอย่างมากพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมปฎิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่ แบบ เอฟ – 5 อี/เอฟ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกองทัพอากาศไทย เมื่อปีพ.ศ.2522 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 - 400 ในเที่ยวบินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงยึดแนวทางการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการดูแลช่วยเหลือราษฎรโดยมีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาแหล่งน้ำในหลายพื้นที่ เช่น ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาด้านเกษตรกรรมเกษตรกรวิชญา บ้านกองแหะ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โครงการพัฒนาพื้นที่บ้านกูแบสีรา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สำคัญ กำเนิดขึ้นจากความรักและศรัทธาของปวงประชาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อย่างหาที่สุดมิได้ คือโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ และเปิดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด้วยพระองค์เองทุกแห่ง ยังความปลาบปลื้มกับพสกนิกรเป็นอย่างยิ่งสายพระเนตรที่ยาวไกลให้ปวงชนชาวไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
ปี 2558 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชปณิธานในการแสดงความกตัญญูกตเวทีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชประสงค์จัดกิจกรรม Bike for Mom-ปั่นเพื่อแม่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม พ.ศ.2558 และกิจกรรม BIKE FOR DAD เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2558 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 5 ธันวาคม พ.ศ.2558 ตลอดจนเป็นการสร้างความรักความสามัคคีร่วมกันของประชาชนชาวไทยและส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกหมู่เหล่า ตลอดเส้นทางที่ทรงจักรยานผ่านจะมีประชาชนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง และสีฟ้า เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จย่างเนืองแน่น ในการนี้ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกร และแย้มพระสรวลตลอดวลา ยังความปราบปลื้มพสกนิกรที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ต่างพร้อมกันตะโกนก้อง ''ทรงพระเจริญ” ตลอดเส้นทางที่ทรงจักรยาน
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ประวัติศาสตร์ชาติไทยจะต้องจารึกไว้ เมื่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลเชิญขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์สืบราชสันตติวงศ์ นับเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ที่แผ่พระบารมีไพศาล ให้กับปวงประชาราษฎร์ทั่วทั้งแผ่นดิน
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้