“เบสท์ริน” พร้อมจ่ายภาษีนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีหากพบเอกสารปลอม
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ปพร้อมจ่ายภาษีนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีหากพบว่าเอกสารการนำเข้าจากมาเลเซียเป็นของปลอม ขณะที่ ขสมก. เตรียมแผนสำรอง โดยจะนำรถที่จะปลดระวางกว่า 2,700 คัน มาวิ่งให้บริการต่อไป

วันนี้ (8 ธ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยถึงกรณีที่กรมศุลกากรไม่อนุมัติให้บริษัทเอกชนนำรถเมล์เอ็นจีวี ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยระบุว่าในกรณีดังกล่าว ขสมก.เป็นแค่ผู้ซื้อ ที่มีสัญญาซื้อขายกับเอกชน โดยเอกชนมีหน้าที่จะต้องส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันให้กับ ขสมก.ตามสัญญา ภายในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ หากไม่สามารถส่งมอบได้ตามสัญญาจะถูกปรับวันละ 17,000 บาท/คัน/วัน หรือจนกว่าจะส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีเสร็จเรียบร้อย ส่วนจะมีการยกเลิกสัญญาหรือไม่นั้น ขสมก.จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และหากมีการยกเลิกสัญญา ขสมก.ก็ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่า 10% หรือประมาณ 330 ล้านบาท
ทั้งนี้ ย้ำว่าทุกคนอยากให้มีการส่งมอบรถเมล์ 489 คัน แต่เงื่อนไขต้องทำให้ถูกกฎหมาย ส่วนแนวทางรองรับ หากไม่สามารถนำรถเมล์ใหม่ 489 คันมาให้บริการประชาชนได้ ขสมก.ก็จะนำรถที่เตรียมปลดระวางกว่า 2,700 คันมาให้บริการต่อไป
ด้านนายคณิสสร์ ศรีวชิรประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ในฐานะบริษัทที่ชนะการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี เปิดเผยว่า คงต้องรอให้กรมศุลกากรของไทยประสานเรื่องไปยังกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของประเทศมาเลเซีย เพื่อตรวจสอบเอกสารใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ Form D ที่บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี นำมาแสดงว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเอกสารจริงก็ไม่มีปัญหาใดๆ บริษัทจะสามารถนำรถออกจากท่าเรือได้ตามปกติ แต่หากผลพิสูจน์พบว่าเอกสารเป็นของปลอม และกรมศุลกากรไทยต้องการจะเรียกเก็บภาษีจากบริษัทเพิ่มเติม 40% ทางเบสท์รินก็พร้อมที่จะจ่ายภาษีตามกฎหมาย แต่บริษัทจะไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากบริษัทในมาเลเซีย ซึ่งเป็นโรงงานผลิต และประกอบรถเมล์ ในข้อหาที่นำเอกสารปลอมมาหลอกบริษัท
ทั้งนี้ ทางบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ได้เตรียมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ในเวลา 14.00 น. ซึ่งต้องดูว่าทางเบสท์ริน จะชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายคณิสส์ร ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เบสท์ริน เป็นแค่ผู้นำเข้า มีหน้าที่นำเอกสารที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจากมาเลเซียนำมาส่งและยื่นสำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ตนไม่ได้ทำเอกสารเอง ส่วนหน่วยงานที่ออกเอกสาร Form D คือ กรมการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ของประเทศมาเลเซียการที่บอกว่าบริษัทฯ ตั้งใจหลีกเลี่ยง ทำให้สังคมอาจเข้าใจผิด บริษัทฯทำธุรกิจในประเทศไทยมามากกว่า 10 ปี เคารพปฎิบัติตามกฎหมายไทย ไม่เคยคิดจะเอาเปรียบคนไทย
“เราโชคร้ายที่ปัญหามาเกิดกับรถบริการสาธารณะที่ประชาชนส่วนใหญ่รอคอยมานาน” นายคณิสส์ร กล่าว
อ่านข่าว : บ.เบสท์ริน เปิดใจ ไม่ทราบที่มารถเมล์ NGV เพราะซื้อต่อจาก บ.สัญชาติมาเลเซีย (คลิป)
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้