วานนี้ (23 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวาระการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว, นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญปี 2550 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา โดยจากการนับคะแนนของสมาชิกสนช.ทั้ง 219 คนพบว่า
สมาชิก สนช.เห็นชอบให้ถอดถอนนายนิคม 95 เสียง ไม่ถอดถอน 120 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง
สมาชิก สนช.เห็นชอบให้ถอดถอนนายสมศักดิ์ 100 เสียง ไม่เห็นชอบ 115 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง
ขณะที่ สมาชิก สนช.เห็นชอบให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ 190 เสียงไม่ถอดถอน 18 เสียงและงดออกเสียง 11 เสียง
ผลจากการถูกถอดถอน ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
โดยกระบวนการถอดถอนของผู้ถูกถอดถอนทั้ง 3 คน ทางด้านที่ประชุม สนช. มีมติให้สมาชิกลงมติในคราวเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการชี้นำและกระทบต่อผลคะแนน ได้ตั้งหีบบัตรและบัตรเพื่อลงคะแนนโดยสีชมพู สำหรับนายนิคม สีขาวสำหรับนายสมศักดิ์ และสีเหลืองสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ บัตรลงคะแนนมีช่องถอดถอน ไม่ถอดถอน และถ้าไม่กาเครื่องหมายใดๆในบัตรถือว่างดออกเสียง และการถอดถอนต้องใช้เสียงสมาชิก 3 ใน 5 หรือมากกว่า 132 เสียง จากสมาชิกทั้งสิ้น 219 คน
ทั้งนี้ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กล่าวในคำแถลงปิดคดีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า ป.ป.ช. ให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ไม่ได้ละเว้นหลักนิติธรรม โครงการจำนำข้าวเป็นการกำหนดราคารับจำนำข้าวสูงกว่าตลาด มีการรับจำนำราคาตันละ 15,000 บาท จากราคาตลาด 7,500 บาท เป็นการใช้กลไกการเมืองซื้อใจชาวนา จนชนะการเลือกตั้ง แต่มีวาระซ่อนเร้นในการทุจริตเชิงนโยบาย โดยพบว่ามีการระบายข้าวของรัฐในราคาถูก อ้างว่าเป็นการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ความจริงเป็นการนำไปขายต่อให้พวกพ้องภายในประเทศ ที่ผ่านมา ป.ป.ช. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ได้มีคำเตือนถึงผู้ถูกกล่าวหาให้ยกเลิกโครงการ ด้วยความเป็นห่วงการใช้งบประมาณและมีการทุจริตเกิดขึ้น แต่ผู้ถูกกล่าวหายืนยันต้องดำเนินโครงการต่อไป เพราะเป็นสัญญาประชาคม ยกเลิกไม่ได้
ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เผยในคำแถลงปิดคดีว่า เธอต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ และขอความเป็นธรรมของสภา และหวังว่า สนช.ทุกท่านจะใช้ดุลพินิจถูกต้องเที่ยงธรรมเป็นประจักษ์ต่อสาธารณชน ไม่จำยอมจากการชี้นำของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การที่ไม่ได้มาตอบข้อซักถามด้วยตนเองก็เพราะข้อบังคับการประชุมระบุว่าผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงแทนได้ ในฐานะนายกฯ ที่กำกับนโยบายได้มอบหมายให้รัฐมนตรีไปขับเคลื่อนให้นโยบายเกิดขึ้น ดังนั้น รัฐมนตรีจะมีข้อมูลตอบข้อซักถามของสมาชิกได้อย่างเข้าใจกว่าตน