หลังจากที่มีการเตือนภัยว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จะเผชิญพายุฤดูหนาวขั้นรุนแรง และมีมาตรการรับมืออย่างเข้มงวด รวมถึงประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ ล่าสุดสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับว่า เกิดความผิดพลาดในการพยากรณ์
ชาวเมืองนิวยอร์ก และอีกหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง หลังทางการประกาศยกเลิกห้ามการเดินทาง ท่ามกลางหิมะที่ยังตกลงมาต่อเนื่อง ซึ่งไม่รุนแรงอย่างที่มีการประกาศเตือนวานนี้ (28 ม.ค.58)
โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NWS ออกมายอมรับว่าการพยากรณ์ความรุนแรงของพายุหิมะจูโน่ นั้นผิดพลาด และพายุกำลังเคลื่อนตัวออกจากพื้นทีเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 วัน
ด้าน บิล เด บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ยืนยันว่าการประกาศมาตรการรับมือที่ถูกวิพากวิจารณ์ว่าเกินกว่าเหตุ รวมถึงการงดให้บริการขนส่งสาธารณะ เป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง และว่าการเตรียมพร้อมรับมือดีกว่าไม่มีการเตรียมพร้อมอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม แม้พายุหิมะจูโน่ จะไม่ได้ยกระดับความรุนแรงเทียบเท่าเฮอร์ริเคน แต่ในหลายพื้นที่ทางชายฝั่งตะวันออกยังเผชิญกับพายุหิมะรุนแรง โดยที่ลองไอร์แลนด์เผชิญหิมะตกหนักที่สุด หนาถึง 28 นิ้ว ขณะที่หลายพื้นที่ หิมะหนาประมาณ 4 ถึง 6 นิ้ว และบ้านเรือนอย่างน้อย 60,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้
อย่างไรก็ตามการที่สหรัฐฯเผชิญกับเฮอร์ริเคนแซนดี้เมื่อปี 2012 ซึ่งสร้างความสูญเสียมากมาย ทำให้ทางการระมัดระวังมากขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของมาตรการรับมือที่เข้มงวดถือเป็นเคราะห์ดีของสหรัฐฯที่พายุครั้งนี้ไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์