จบลงไปแบบสร้างความมึนงง ให้กับคนดูทั้งประเทศ เมื่ออธิบดี DSI แถลงยุติการค้นหา “พระธัมมชโย” หลังเข้าไปค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ในวันที่ 10 มีนาคม พร้อมประกาศให้อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มีสถานะกลายเป็น “ผู้ต้องหา หลบหนีหมายจับ”
แต่จริง ๆ แล้ว ตอนจบแบบนี้ “ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด” เพราะเป็นเพียงตอนจบของ SEASON ยังไม่ใช่ตอนจบของเรื่อง ถ้าพูดแบบหนังสงครามก็คือ ... “ไม่จำเป็นต้องชนะทุกสนามรบ แต่ชนะในสงครามก็พอ”
แต่ที่ “งง” เพราะก่อนหน้านั้น ท่าทีของ DSI ดูขึงขัง หนักแน่น มาตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ หลังมี มาตรา 44 เป็นเกราะป้องกันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีอำนาจมากขึ้น
ลองมาไล่เรียงกันใหม่
16 – 18 กุมภาพันธ์ ดีเอสไอ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายได้สำเร็จ เข้าไปที่ โซน C พื้นที่ฝั่ง 2,000 ไร่ ต่อด้วยโซน A B พื้นที่ 196 ไร่ ที่ถูกสงสัยว่าน่าจะที่จำวัดของพระธัมมชโย เข้าไปถึงอาคารดาวดึงส์ ถึงห้องที่เคยถูกอ้างว่า เป็นห้องรักษาอาการอาพาธ แต่ไม่พบตัวพระธัมมชโย
ถ้านับเฉพาะช่วง 3 วันนี้ DSI ได้แต้มเหนือวัดพระธรรมกาย เพาะแม้จะไม่ได้ตัวผู้ต้องหา แต่อย่างน้อย ก็ได้พิสูจน์ว่า “อาการอาพาธของพระธัมมชโย ไม่ได้หนักหนา ถึงขนาดว่า เคลื่อนย้ายไม่ได้ อย่างที่ทางฝ่ายวัดเคยใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ไปมอบตัว”
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ... วันที่สถานการณ์พลิกไปอีกครั้ง ทั้งที่เหมือนจะจบแล้ว เมื่อดีเอสไอ ที่ถอนกำลังไปแล้วบางส่วน อยู่ ๆ ก็ประกาศให้พระและศิษย์ออกจากวัด ทำให้ฝ่ายวัดพระธรรมกายรุกกลับทันที ผลักดันเจ้าหน้าที่ถอยร่นออกไป ... ฝ่ายวัด ได้แต้มคืน
20 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุปะทะกันครั้งแรก ที่ถนนเลียบคลองแอล ... ทั้ง 2 ฝ่าย ล้มระเนระนาด ... หลังจากนั้น ต้องเจรจา ถอยออกจากจุดปะทะ ฝั่งละ 10 เมตร ปิดสมรภูมิที่จุดนี้ไปทันที ... เปิดสมรภูมิใหม่ที่ “ตลาดกลางคลองหลวง”
23 กุมภาพันธ์ ทหาร เข้าไปพื้นที่ก่อสร้างข้างอาคารบุญรักษา จุดเชื่อมต่อที่ดิน 196 ไร่ ... ท่าทีนี้ ดูขึงขัง แต่ถูกพระและศิษย์ ออกมาสวดมนต์ขวางตามเคย ... จนต้องถอนกำลัง รื้อลวดหนามกลับออกไป
เมื่อทหารถอย เย็นวันนั้น ฝ่ายวัดได้ทีตอบโต้เอาคะแนนกลับทันที ด้วยการรวบรวมมวลชนที่ตลาดกลาง ออกเดินท่ามกลางมาตรา 44 นำเสบียงส่งเข้าไปในวัดที่ถูกปิดตาย โดยที่ DSI ต้องกลายเป็นส่งของต่อให้
เหตุการณ์ที่ดูเหมือน DSI กำลังเดินถอยหลัง ไม่สามารถจัดการปัญหามวลชนที่ตลาดกลางด้า ทั้งที่มีรายงานว่าจะจัดการอยู่หลายรอบ ทำให้สถานการณ์ฝ่ายเจ้าหน้าที่ดูไม่มีเลย ในช่วงนั้น
แต่ 24 กุมภาพันธ์ ในขณะที่ฝ่ายวัด เดินหน้าส่งเสบียงเข้าวัด เจ้าหน้าที่จัดการปัญหามวลชนไม่ได้ .... กลายเป็นว่า DSI ปล่อยหมัดฮุกลูฏใหญ่เข้าใส่วัดพระธรรมกายได้อีกครั้ง เลิกสนใจปัญหามวลชน ... ไปใช้วิธีใหม่ “ตัดสัญญาณการสื่อสาร” ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เนต โจมตีไปที่จุดแข็งที่สุดของวัด คือ การทำข้อมูลข่าวสาร
ปิดช่องทาง สงคราม IO (Information Operation)
เจอลูกนี้ วัดพระธรรมกาย เป๋ไปหลายวัน
DSI ยังเดินหน้าล่าแต้มต่อเนื่อง หลังตัด “องอาจ ธรรมนิทา” โฆษกฝีปากกล้า ออกจากเกมไปได้นานแล้ว ยังสามารถตัด “พระมหานพพร” ออกไป หลังผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร เข้ารายงานตัว ตามด้วยมือแถลงที่ตลาดกลาง “อัยย์ เพชรทอง” ถูกเรียกไปรับเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวอีกคน แม้แต่ “พระปลัดเสกสรร” ที่มาแทนนายอัยย์ ก็โดนเรียกวันที่ 8 มีนาคม ปิดท้ายด้วยการตัด “ผู้ส่งสาร” คนสำคัญของวัดพระธรรมกายออกจากเกม คือ “พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส” ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร
ระหว่างนั้นยังมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอดสมณศักดิ์ พระธัมมชโย ตามมาด้วยพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอดสมณศักดิ์ พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ที่ว่ากันว่า เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในวัดทั้งหมดระหว่างนั้น
เดินหมากมาถึงตานี้ ... DSI ทยอยเก็บแต้ม ออกอาวุธหนัก โจมตีต่อเนื่อง ตัดแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามออกจากเกม จนเช้าวันที่ 10 มีนาคม พระสนิทวงศ์ ต้องลุ้นประกันตัว องอาจ ธรรมนิทา กลับมาปรากฏตัว
ประตูวัดฝั่ง 196 ไร่ ที่ปิดสนิท ถูกเปิดออก ... แต่ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเป็นการเปิด เพื่อปิดสมรภูมิ ... ในเมื่อฝ่ายที่ไล่ทำแต้ม กำลังรุกหนัก
ภาพการเข้าตรวจค้นวันนั้น ... ดูถ้อยที ถ้อยอาศัย ... ก่อนที่จะประกาศ “ปิดยุทธการ” ไปรบกันต่อด้วยคดีความ ใช้กลไกศาล กลไกสอแบเส้นทางการเงิน
แต่ ... ย้อนกลับไปอ่านด้านบน ... นี่ไม่ใช่สิ่งที่เหนือความคาดหมาย ... ยุทธการจบ ปิดสมรภูมิ แต่สงครามยังไม่จบ
“สิ่งที่กำลังจะตามมาต่างหาก ที่จะเหนือความคาดหมาย”
“โปรดติดตามตอนต่อไป” …. To Be Continued
*** ชมการวิเคราะยุทธการ ชิงไหวชิงพริบ ชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ ชิงพื้นที่สื่อ ศึกวัดพระธรรมกาย แบบเต็ม ๆ ในรายการ “สารตั้งต้น” ตอน “ยกทัพ จับสึก To Be Continued” วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคมนี้ เวลา 16.20น. ทาง #PPTVHD36