กูรข่า มาจากชื่อเมือง Gorkha เป็นเมืองที่มีชนเผ่านักรบหลายเผ่าซึ่งรวบรวมชาติและขยายอาณาจักรเนปาลออกไป เมื่อจักรวรรดิอังกฤษแผ่ขยายแสนยานุภาพยึดอินเดียไว้ทั้งทวีปและรุกรานมาถึงดินแดนเล็ก ๆ เชิงเขาหิมาลัยอย่างเนปาล ก็พบกับการต่อต้านจากนักรบพื้นเมือง ที่แม้จะด้อยกว่าทั้งกำลังพลและอาวุธแต่พวกเขายืนหยัดสู้ไม่ถอย และตั้งแต่ปี 1815 เป็นต้นมา อังกฤษจึงทำสนธิสัญญาสันติภาพและขอให้กษัตริย์เนปาลอนุญาตให้นักรบภูเขาผู้ไม่เกรงกลัวความตายเหล่านี้ไปรับใช้ในกองทัพอังกฤษ
การได้รับเลือกให้เข้าเป็นกำลังพลในกองทหารกูรข่า เป็นที่มาของทั้งเกียรติยศ ชื่อเสียง รายได้ และที่สำคัญคือการขยับฐานะและชนชั้นทางสังคม จากชาวนามาเป็นนักรบ ไม่แปลกที่ปีหนึ่ง ๆ จะมีเด็กหนุ่มชาวเนปาลหลายหมื่นคนมุ่งหน้ามาสู่เส้นทางแห่งเกียรติยศและความกล้าหาญนี้
แต่จะเข้าเป็นทหารกูรข่าได้ไม่ใช่เรื่องง่าย การคัดเลือกเด็กหนุ่มชาวเนปาลของกองทัพอังกฤษนั้นได้ชื่อว่าโหดหินที่สุดแห่งหนึ่ง มีหลายขั้นตอน ใครไม่ผ่านขั้นตอนไหนก็จะถูกคัดออกทันที พวกเขาจึงต้องเตรียมตัวกันอย่างหนัก ส่วนใหญ่เลือกที่จะสมัครเข้าเตรียมตัวในศูนย์ฝึกซึ่งอยู่มากมายในเนปาล ลักษณะคล้ายกับโรงเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ต่างกันแต่ที่นี่ต้องกินนอนอยู่ในศูนย์ฝึกตลอดเหมือนกับโรงเรียนประจำ
ขั้นตอนการทดสอบจะเริ่มจากสมรรถภาพทางร่างกาย เช่น วิ่งระยะทาง 800เมตรในเวลา 2นาที 40 วินาที/ ดึงข้อบาร์เดี่ยว 13 ครั้ง แต่ที่ยากและเป็นด่านที่โหดที่สุดคือ การทดสอบที่เรียกว่า Doko Race ที่จะนำหินหรือทรายน้ำหนัก 35 กิโลกรัมใส่ลงในตะกร้าใส่ จากนั้นก็วิ่งหรือเดินขึ้นภูเขาในความชันระดับขั้นบันไดด้วยระยะทาง 4.8 กิโลเมตร
นอกจากการทดสอบทางด้านร่างกายที่ยากแล้ว พวกเขายังต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ทัศนคติและไหวพริบ ซึ่งถือเป็นอีกด่านการทดสอบที่สำคัญไม่แพ้การทดสอบทางร่างกาย สำหรับกองทัพในยุคปัจจุบันที่สงครามสมัยใหม่ไม่ได้วัดกันที่ขนาดของกองทัพและการสู้รบด้วยอาวุธแต่เพียงอย่างเดียว