การประเมินสภาพร่างกาย และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธีก่อนนำส่งโรงพยาบาล การเช็คสภาพรถยนต์ตัดไฟแบตเตอรี่เพื่อป้องกันเหตุรถยนต์ระเบิด เป็นหนึ่งในบททดสอบของการแข่งขันการพัฒนาทักษะช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุระดับชาติ ในฐานการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดของคนไทย
เช่นเดียวกับฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น ซึ่งนอกจากจะต้องมีความเชี่ยวชาญ เช่นการปั๊มหัวใจ ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า การให้ยาแล้ว ความรวดเร็วในการประสานงานเพื่อเข้าช่วยเหลือ เป็นสิ่งท้าทายของทีมกู้ชีพทุกระดับ
เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บอกว่า การแข่งขันแบ่งเป็น 6 ฐาน ซึ่งในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกของการเสริมประสบการณ์ใหม่ในฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการสวมใส่และถอดชุดป้องกันการปนเปื้อนส่วนบุคคลอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ
การแข่งขันครั้งนี้ จะช่วยให้ทีมผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน มีความพร้อมในทุกสถานการณ์ และนำไปสู่มาตรฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้มีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
ตัวแทนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เล่าว่า ในการปฏิบัติงานจริง มักพบปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ละเลยการให้ความสำคัญกับข้อควรระวังในการช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ ดังนั้นคำแนะนำจากคณะกรรมการแต่ละฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานหลังจากนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นตัวแทนที่ผ่านการคัดเลือกจากเขตสุขภาพ 12 เขตทั่วประเทศ ใน 3 ระดับ คือทีมปฏิบัติการฉุกเฉินระดับสูง ที่ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ ทีมชุดปฏิบัติการฉุกเฉินระดับระดับต้น ประกอบด้วยพนักงานฉุกเฉินการแพทย์และอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ และทีมชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินเบื้องต้น