ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีใครตอบได้ว่า หากไม่มีรัฐประหารจนทำให้โครงการรับจำนำต้องล้มพับไป รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะสามารถระบายข้าวได้มีประสิทธิภาพและการเงินของประเทศจะไม่บอบช้ำเหมือนที่เกิดขึ้นตามที่เคยอ้างไว้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระสอบข้าวกว่า 8 หมื่นกระสอบ รอขนย้ายไปยังโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ผู้ชนะประมูล ขณะที่เจ้าของโกดังแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงสีที่ร้องเรียนต่อสื่อ ขอให้ช่วยตรวจสอบความผิดปกติ
อิศราภรณ์ คงฉวี กรรมการผู้จัดการคลังวรโชติ 2 กล่าวว่า มั่นใจว่าข้าวในโครงการรับจำนำที่เก็บรักษาไว้ ไม่เสื่อมคุณภาพถึงขั้นถูกตีตราขายเป็นอาหารสัตว์ ยกโกดัง ตามผลตรวจสอบของกรมการค้าต่างประเทศ เราเสียหายทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายที่ยังไม่ได้รับเกือบ 6 ล้าน และมีหนังสือรับประกันที่ยังไม่ได้คืนอีก 10 ล้านบาท และไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือไม่ รวมถึงมีคดีความที่ถูกแจ้งไปแล้วอีกด้วย
พรรชนี ลิ้มสุคนธ์ พาณิชย์จังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า เขาอาจจะมองว่าในเมื่อข้าวในโกดังของเขาเป็นข้าวเกรดซีกองหนึ่งก็นึกว่าขายก็ขายเฉพาะกองที่เป็นเกรดซี กองอื่นก็เป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละกอง แต่มันมีระเบียบตัวหนึ่งที่ระบุว่าถ้ามีข้าวเกรดซีเกิน 20 % ในโกดังนั้น ก็ถือว่าโกดังนั้นเป็นเกรดซี
นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า เราก็ดูแล้ว แต่ว่ามันไม่ใช่การตรวจสอบนโยบาย ที่เราอยากให้ทำคือตรวจสอบนโยบาย ตรวจสอบกระบวนการบริหารว่าโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดมันใช้ไม่ได้ มีการทุจริต สวมรอย เบี่ยงเบนการค้าข้าวของประเทศ
ตามกำหนดการ วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิพากษาคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และข้าราชการอีกจำนวนหนึ่งเป็นจำเลยก่อน
เมื่อเสร็จแล้วก็จะอ่านคำพิพากษาคดี ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่รู้ว่า ทุจริต ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นลำดับถัดมา
ทีมข่าว PPTV รายงาน