วันนี้ (24 ต.ค. 60) สื่อต่างชาติรายงานว่า กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเริ่มเก็บค่าปรับรถก่อมลพิษเพิ่ม ซึ่งเรียกว่า “ที-ชาร์จ มีผลบังคับใช้กับเจ้าของรถยนต์เบนซินและดีเซลที่จดทะเบียนก่อนปี 2006 ซึ่งจะถูกเรียกเก็บอีก 10 ปอนด์ ประมาณ 440 บาท เท่ากับว่าผู้ใช้รถในกลุ่มนี้ จะต้องเสียค่าปรับ 2 ครั้ง รวมเป็นเกือบ 1 พันบาท เพราะจากเดิม ผู้ใช้รถจะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 11.50 ปอนด์ ประมาณ 500 บาท อยู่แล้ว หากขับรถเข้าไปในย่านธุรกิจและบางส่วนของลอนดอนตะวันตก เพื่อแก้ปัญหาการจราจรแออัด
โดยคาดว่าจะมีรถที่ต้องเสียค่าปรับนี้ 34,000 คันต่อเดือน ซึ่งอาจจะเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนรถที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดกว่า 535,000 คัน แต่ก็เป็นการปูทางไปสู่นโยบายในอนาคต เช่น การกำหนดเขตปล่อยมลพิษต่ำภายในปี 2020 เป็นต้น ด้านนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ประกาศหวังว่ามาตรการใหม่นี้ช่วยลดปัญหามลพิษ ซึ่งจะช่วยชีวิตผู้คนได้หลายพันคนในแต่ละปี และหวังว่าจะกระตุ้นให้ผู้ใช้รถเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นับตั้งแต่เกิดกรณีอื้อฉาวโกงการตรวจวัดระดับการปล่อยมลพิษของบริษัทโฟล์กสวาเกนในปี 2015 เมืองใหญ่ๆ หลายเมือง ไม่ว่าจะเป็น มาดริด ปารีส หรือเอเธนส์ ก็ได้ประกาศแผนลดมลพิษจากรถยนต์ดีเซล เช่น การประกาศห้ามจำหน่าย เก็บค่าปรับ หรือจำกัดการวิ่ง