สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงสายของวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่โบสถ์ First Baptist ในเมือง ”ซัทเธอร์แลนด์ สปริง” เขตวิลสัน รัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายซึ่งคาดว่าลงมือเพียงลำพัง ได้เดินเข้าไปภายในโบสถ์ พร้อมกับใช้ปืนที่เตรียมมา กราดยิงผู้คนที่กำลังประกอบพิธีทางศาสนา โดยไม่ได้พูดหรือกล่าวอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 คน อายุตั้งแต่ 5 ขวบ ไปจนถึง 72 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 20 คน ส่วนคนร้าย ซึ่งถูกประชาชนในพื้นที่ใช้ปืนไรเฟิลยิงสวน พยายามขับรถหลบหนี ก่อนถูกพบเป็นศพอยู่ในรถ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายิงตัวตาย หรือถูกยิงระหว่างการต่อสู้
ด้านนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัส
จากการสอบสวนเบื้องต้น คนร้ายเป็นชายผิวขาว ชื่อ เดวิน พี. เคลลี เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ วัยเพียง 26 ปี โดยเขาแต่งกายด้วยชุดสีดำ สวมเสื้อกั๊กกันกระสุน พร้อมปืนไรเฟิลและอุปกรณ์ครบมือ เปิดฉากยิงตั้งแต่ที่ด้านนอกโบสถ์ ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุด้านใน ส่วนแรงจูงใจยังไม่ทราบแน่ชัด
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างภารกิจการเยือนญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและให้กำลังใจชาวอเมริกันทุกคน โดยตนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า
กต.เผยไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงในรัฐเท็กซัส
เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง”ซัทเธอร์แลนด์ สปริง” เขตวิลสัน รัฐเท็กซัส โดยใช้ปืนที่เตรียมมา กราดยิงผู้คนที่กำลังทำพิธีทางศาสนา มีผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัส ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่าได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ว่าจากเหตุการณ์กราดยิงดังกล่าว ไม่มีคนไทย เสียชีวิต หรือได้รับผลกระทบแต่อย่างใด