ข่าวฮิตติดกระแสในรอบสัปดาห์ 2 - 8 ธ.ค.60


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวอะไรที่น่าสนใจ นิวมีเดียพีพีทีวี รวบรวมมาให้อ่านกัน

ยกมือบังแดดเป็นเหตุ  “ประวิตร” ถูกโลกโซเชียลส่อง “แหวนเพชร-นาฬิกาหรู” ก่อนถูกสอบบัญชีทรัพย์สิน

งานนี้ต้องเรียกได้ว่า “แสงแดด” เป็นเหตุจริงๆ  สำหรับกรณีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ระหว่างการถ่ายรูปคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล ในระหว่างรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงมาถ่ายรูป ในช่วงนั้นแดดกำลังจ้า และส่องมาที่หน้าเหล่าคณะรัฐมนตรี จนแสบตากันไปหมด ระหว่างนั้น พล.อ.ประวิตร ก็ได้ยกมือมาบังแดด ก่อนแหวนเพชรจะระยิบระยับเป็นประกายเจิดจ้ากับแดดแรงๆ ที่ส่องมา แถมจังหวะยกมือยังเผยให้เห็นนาฬิกาหรู “ริชาร์ด มิลด์” ที่มีราคาหลักล้าน จนสื่อมวลจนต้องแซวถึงเรื่องแหวน จนพล.อ.ประวิตร ถึงกับเขินอายและหันหัวแหวนกลับทันที

ก่อนเรื่องนี้จะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เนื่องจากทั้ง “แหวนเพชร-นาฬิกาหรู” ไม่ได้มีการแจ้งรายการในบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน แต่พล.อ.ประวิตรเองได้ชี้แจงกรณีนี้สั้นๆ ว่า เป็นของเก่าเก็บ และขอชี้แจงรายละเอียดกับ ป.ป.ช. เท่านั้น และหลายฝ่ายก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีนี้ ก่อนเมื่อวานนี้  (7 ธ.ค.60) เลขาฯป.ป.ช.ระบุว่า จะเตรียมทำหนังสือ ประเด็นนาฬิกาหรู-แหวนเพชร ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน เพื่อแสดงข้อเท็จจริง


อ่านเพิ่มเติม

ป.ป.ช. ให้เวลา"ประวิตร" 30 วัน ชี้แจงที่มา "นาฬิกา-แหวน"

“ประวิตร”ปัดตอบที่มา “แหวนเพชร-นาฬิกาหรู”ขอแจงป.ป.ช.

 “พล.อ.ประวิตร” แจงปมวิจารณ์ “แหวนเพชร-นาฬิกาหรู” เป็นของเก่าเก็บ

 

“หญิงแย้” วอนชาวเน็ตอย่าโจมตีไม่ตั้งใจวิจารณ์ดาราเกาหลี  


กลายเป็นเรื่องที่แซวเล่นจนได้เรื่องสำหรับหญิงแย้ นนทพร ที่เจ้าตัวได้ทำรายการลงในยูทูปตามสไตล์ของเธอแต่ครั้งนี้ดันไปแซวไม่ดูตาม้าตาเรือ ไปแซวหน้าตาขอพระเอกหนุ่มแดนโสม “กงยู”  นักแสดงนำจากภาพนตร์ทำเงินอย่างเรื่อง  TRAIN TO BUSAN และซีรีย์ดังอีกมากมาย  โดยหญิงแย้แซวว่า “รู้สึกว่าพระเอกคนนี้ไม่หล่อไม่มีเสน่ห์หน้าเขาบูดๆเบี้ยวๆ หน้าแบบไม่หล่อเหมือนคนกำลังทำศัลยกรรมกำลังตอกๆอยู่แล้วหมอมีธุระเลยไม่ได้กลับมาทำต่อ” ทำให้แฟนคลับของ “กงยู” ต่างไม่ยอม พากัน ทวีตต่อว่า “หญิงแย้” จนทวีตนี้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง  พร้อมมองว่าเป็นคนดังไม่ควรเหยียดคนอื่น เพราะหน้าของหญิงแย้ก็ผ่านการทำศัลยกรรมมาเช่นกัน

นอกจากแฟนคลับแล้ว เหล่าคนบันเทิงไทยหลายคนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วยอย่างเช่น โอปอล์ ก็ได้ทวิตข้อความด้วยว่า  “การล้อเลียนรูปลักษณ์ของคนอื่น มันไม่ตลก...ไม่เคยตลก น้องๆที่ชอบศลป.เหล่านี้ก็ไม่ได้ผิดที่เขาไม่รู้สึกตลกไปด้วย การให้เกียรติในความแตกต่างและเท่าเทียมกันของมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ”  แม้นักร้องอย่าง โต๋ ศักดิ์สิทธิ ก็เช่นกัน โดยได้ทวิตข้อความว่า "ผมเป็นผู้ชายครับ และสำหรับผม ผู้ชายแบบ กงยู คือออปป้าที่แท้ทรูหนึ่งในใจ กงยู คือไอดอล แต่ไม่ได้อยากเป็น กงยู นะ อยากเป็น แฟนยู มากกว่า"  งานนี้ “หญิงแย้” ทนกระแสไม่ไหวต้องออกมาลบคลิปรายการดังกล่าว พร้อมขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ ว่าไม่ได้มีเจตนาแค่แซวเล่น ไม่ได้ตั้งใจเหยียดใคร

เปิดใจเหยื่อ “ธุรกิจขายฝัน” ถูกหลอกสูญเงินกว่า 3 แสน!

ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มคนที่อ้างตัวว่า เป็นนักธุรกิจขายสินค้าผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่ง ระบุว่า “ยาขาว ขายแล้วจะรวย”  โดยมีเงินซื้อรถหรูซุปเปอร์คาร์ราคาแพงกว่า 10 ล้านบาท  ซึ่งทำให้มีผู้คนถูกหลอกจำนวนมาก และหลงเชื่อร่วมทำธุรกิจ บางคนสูญเสียเงินหลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาท และกำลังเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียลในขณะนี้ ขณะที่ในเพจเฟซบุ๊ค แหม่มโพธิ์ดำ ได้มีการรวมกลุ่มของคนที่ถูกหลอกเข้ามาโพสต์แชร์ประสบการณ์ จึงทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

โดย ผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ได้สัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอ เปิดเผยว่า ถูกหลอกให้ร่วมทำธุรกิจนี้ เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว เสียเงินไปกว่า 300,000 บาท จากการถูกหลอกให้ร่วมทำธุรกิจโฆษณาสินค้าผ่านทางเว็บไซต์  ซึ่งจะได้ผลตอบแทนอาทิตย์ละ 3,000 ถึง 7,000 บาท หากสามารถหาคนมาร่วมทำธุรกิจเพิ่มได้และขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่สูง ก็จะมีเงินเดือนหลักแสนถึงหลักล้านบาท ซึ่งหลงกลเข้าไปนั่งฟังอบรมเพียง 3 วัน ต้องเสียเงินให้กับขบวนการนี้ไปกว่า 300,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม

//www.pptvhd36.com/news/70952

//www.pptvhd36.com/news/71107

//www.pptvhd36.com/news/71140

//www.pptvhd36.com/news /71075

 

ตูนเท้าไฟวิ่งต่อเนื่อง กำลังใจดีถึงบ้านเกิด ยอดบริจาคใกล้ถึงเป้า 700 ล้าน

กระแสของหนุ่มตูน บอดี้สแลม ยังแรงต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์นี้ หลังนักร้องชื่อดังคนนี้ พร้อมทีมงานก้าวคนละก้าว วิ่งสมทบทุนเพื่อนำเงินช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ วิ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม โดยมีแฟนคลับและประชาชนมาร่วมต้อนรับและบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก และได้รับเงินสมทบทุนเพิ่ม 100 ล้านบาท จากคิงพาวเวอร์ (อ่านข่าว >> ตูน บอดี้สแลมวิ่งถึงซอยรางน้ำยอดเงินบริจาคทะลุ 500 ล้านบาทจากนั้นช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม หนุ่มตูน พร้อมทีมงานเดินทางเข้าพบ นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และมีการพูดคุยกับนายกฯในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยพล.อ.ประยุทธ์ อวยพรขอให้หนุ่มตูนทำสำเร็จ แฃะให้ดูแลสุขภาพร่างกายด้วย (อ่านข่าว >> บิ๊กตู่เปิดทำเนียบรับ ตูน บอดี้สแลมอวยพรขอให้ทำสำเร็จ แนะดูแลสุขภาพ)

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค. 60) หนุ่มตูน บอดี้สแลม วิ่งถึงปตท. หลักเมือง (เลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี) จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดโดยมีประชาชนมารอต้อนรับหนาแน่นเหมือนเคย นอกจากนี้ น้าแอ๊ด คาราบาว ยังเดินทางมาร่วมวิ่งในเซ็ทสุดท้ายของวัน และจัดตั้งเวทีเพื่อขึ้นร้องเพลงให้กำลังใจหนุ่มตูน และทีมงานก้าวคนละก้าวด้วย สำหรับยอดเงินบริจาคล่าสุดเกือบ 660 ล้านบาท (อ่านข่าว >> ตูน บอดี้สแลมวิ่งต่อเนื่อง ยอดบริจาคใกล้ 700 ล้านบาท)


หวยอลเวง 30 ล้าน ยังไม่จบ! ไม่มีใครยอมรับผิด ตร.พาเข้าเครื่องจับเท็จ

จากกรณีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ระหว่างอดีตข้าราชการตำรวจ และครูในจังหวัดกาญจนบุรี ยังไม่มีข้อสรุปว่าฝ่ายใดคือเจ้าของรางวัลกันแน่ โดยฝ่ายอดีตข้าราชการตำรวจ นำสลากที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็นผู้ซื้อสลากชุดนั้นมาจริงไม่ได้ขโมยหรือเก็บจากพื้น ขณะเดียวกันฟากฝั่งของครู ที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสลากชุดนั้นเป็นของตน ก็ยังยืนยันว่า ตนเป็นผู้ซื้อมาก่อนจะทำหายไป โดยมีพยานบุคคลคือแม่ค้าสลาก ซึ่งแม่ค้ารายนี้ก็ยืนยันหนักแน่นว่า ตนเองมั่นใจว่าลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลขายให้กับครูปรีชาแน่นอน (อ่านข่าว >> คดีหวย 30 ล้าน! แม่ค้าขายลอตเตอรี่ยืนยันขายให้ครูปรีชาจริง)

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลักฐานซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดในตลาดสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้เพียง 15 วัน นั่นหมายความว่า ภาพที่จะพิสูจน์ได้ว่า คู่กรณีเดินทางมาที่ตลาดแห่งนี้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม หรือไม่ ถูกลบไปแล้ว หลังจากนี้ ตำรวจต้องนำหลักฐานอื่นมาประกอบการพิจารณาแทน เช่น พยานบุคคล ผลตรวจ ดีเอ็นเอ บนสลากกินแบ่งรัฐบาล และ ซองใส่ โดยวิธีการที่จะพิสูจน์เบื้องต้น เตรียมนำคู่กรณี ทั้งครูปรีชา และนายจรูญ เข้าเครื่องจับเท็จ หลังได้สอบปากคำทั้งคู่ รวมถึงพยานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (อ่านข่าว >> เบาะแสจากวงจรปิดไม่เหลือตร.เตรียมนำคู่กรณีแย่งรางวัลที่ 1 เข้าเครื่องจับเท็จ)

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวแนะนำว่า ผู้ที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่รู้หรอกว่าจะถูกหรือไม่ถูก วิธีที่ดีสุดและง่ายที่สุด คือ ถ่ายรูปตนเองกับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ซื้อไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อรู้ว่าถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้นำหลักฐานที่มีทั้งหมดไปขึ้นเงิน หรืออาจไปลงบันทึกประจำวันกับสถานที่ตำรวจก่อนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราเป็นเจ้าของ (อ่านข่าว >> เซลฟี่คู่หวย ! ตร.ชี้ เป็นหลักฐานชั้นดีกันถูกขโมย)

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ