วันนี้ (22 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการเร่งออกร่าง พ.ร.บ.การเก็บภาษีจากผู้ประกอบการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาครัฐเก็บภาษีจากการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ต้องเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย หลังจากสถิติปีที่ผ่านมาธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยายตัวเพิ่มขึ้น 20-30% ซึ่งคาดว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ปี 2561
สำหรับธุรกิจที่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว อย่างการขายน้ำพริกสูตรโบราณแบบบ้านๆ แต่มีการปรับกลยุทธ์การขาย หันมาเน้นขายแบบออนไลน์ สร้างรายได้สูงถึงเดือนละ 70,000 บาท แถมมีลูกค้าสั่งจากต่างประเทศด้วย โดยเจ้าของน้ำพริกที่ขายดีนี้ ก็คือคุณ บงวรัตน์ งามพร้อม อายุ 44 ปี อยู่ที่ ต.ปราสาททอง อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายน้ำพริก โดยใช้ช่องทางออนไลน์ในโลกโซเชียลโฆษณาขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊กหรือไลน์ รวมถึงตามตลาดนัดทั่วไป จนสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองถึงเดือนละ 50,000 – 70,000 บาท ถึงแม้เพิ่งเริ่มต้นจำหน่ายได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เนื่องจากได้สูตรจากคุณแม่ ที่มีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้ลูกค้าติดอกติดใจและสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง
โดยน้ำพริกของที่นี่ ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านโดยแท้ และเป็นสูตรโบราณ จากฝีมือของแม่เฒ่าธรรมดาบ้านๆคนหนึ่ง ที่ชอบตำน้ำพริกให้กับลูกหลานและเป็นของฝากญาติๆที่แวะมาเยี่ยมช่วงเทศกาลได้รับประทานเท่านั้น จนไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นของฝากที่หลายคนชื่นชอบ นอกจากนี้ยังมียังมีลูกค้าในต่างประเทศสั่งซื้อไปรับประทานและขายต่อด้วย โดยน้ำพริกที่ขายดีก็คือ น้ำพริกกากหมู และยังมี น้ำพริกปลาย่างธรรมดา ,ปลาย่างร้า และน้ำพริกกุ้ง ในชื่อน้ำพริกแม่การุณ ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินหลักพันบาท ปัจจุบันมียอดขายสูงสุดเดือนละ 70,000 บาท หักทุนแล้วเหลือเดือนละประมาณ 45,000 บาทขึ้นไป