วันนี้ (8 ก.พ.61) นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุผ่านรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ทางสถานีโทรทัศน์ พีพีทีวี ถึงข้อกฎหมายที่นำมาใช้กับผู้กระทำความผิดในการล่าสัตว์ป่า ว่า ปัจจุบัน พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ได้รับการแก้แล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกใจ เช่น ถ้าหากยิงนกและช้าง แต่กลับได้รับโทษเท่ากัน มันไม่ยุติธรรม ดังนั้นต้องแยกสัตว์ออกเป็นประเภท และกำหนดบทลงโทษจำคุกใหม่ตั้งแต่10 ปี, 15 ปี, 20 ปี และ 30 ปี โดยเฉพาะสัตว์สงวนควรกำหนดบทลงโทษจำคุก 30 ปี ซึ่งจะทำให้เหล่านักล่าสัตว์ไม่กล้าที่จะเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย
โดยส่วนกรณีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารอิตาเลียนไทย กับพวก โดนเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 9 ข้อหา ซึ่งถือว่าเป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่ที่ตนเคยเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ เพราะโดยทั่วไปมักจะใช้กฎหมายมาตรา 16 และ 19 แจ้งข้อกล่าวหา เช่น ในกรณีที่มีซากสัตว์ป่าอยู่ในครอบครอง ดังนั้นก็จะเป็นบรรทัดฐานต่อไป ที่กรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ จะต้องดูคดีนี้เป็นตัวอย่าง ให้แจ้ง 9 ข้อหาดังกล่าว เป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะยิงสัตว์ชนิดไหน ก็ให้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด
“ผมเชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทองผาภูมิ เขาชินกับคดีแบบนี้อยู่แล้ว รวมทั้งอัยการศาลตัดสิน มันมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว คดีอย่างนี้หลุดได้ยาก ยิ่งเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ไม่มีใครกล้าแหกโค้งหรอก เงินใช้ไม่ได้หรอกกับคดีนี้” อดีตอธิบดีกรมอุทยาน กล่าว
ชมคลิป : “อดีตบิ๊กกรมอุทยาน” แฉ ทุกรัฐบาลตัดงบ “ผู้พิทักษ์ป่า” จนขาดคน - ไร้อุปกรณ์ปราบ “ขบวนการล่าสัตว์”