วันนี้ (12 ก.พ.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร เข้าเยี่ยมนางธิดา บริคช ชาวอำเภอสวี ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หลังถูกคนร้ายลักลอบนำยาฆ่าแมลงเทใส่ในแท็งก์น้ำสำหรับดื่ม ล่าสุดอาการดีขึ้นสามารถพูดคุยได้เป็นปกติ
ขณะที่นางธิดา เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุได้นำน้ำในแท็งก์ ไปหุงข้าว และดื่มกินตามปกติ ซึ่งรู้สึกว่ามีกลิ่นผิดปกติ จึงเดินไปเปิดแท็งก์น้ำดู พบว่าน้ำมีสีขุ่นและมีกลิ่นของยาฆ่าแมลง โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าเป็นคนรู้จัก เพราะรู้ว่าแท็งก์ไหนเก็บไว้สำหรับกิน และแท็งก์ไหนเก็บไว้สำหรับใช้ทั่วไป แต่ไม่ทราบสาเหตุ เพราะส่วนตัวไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของ นางธิดา พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนยางพารา ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 20 กิโลเมตร บริเวณหลังบ้านมีแท็งก์น้ำทำจากท่อปูนขนาดความกว้าง 1 เมตร แยกเป็นแท็งก์น้ำใช้ 2 แท็งก์ และแท็งก์น้ำดื่ม 2 แท็งก์ ตรวจสอบพบ 1 ใน 2 ของแท็งก์น้ำดื่ม น้ำมีสีขาวขุ่น และส่งกลิ่นเหม็นฉุนคล้ายกลิ่นสารเคมีเจือปน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำขวดน้ำพลาสติกเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
ด้าน พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสวี ขณะนี้ส่งตัวอย่างน้ำจากแท็งก์ของผู้เสียหาย ไปตรวจแยกหาสารพิษ เพื่อนำมาประกอบสำนวน พร้อมสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเชื่อมโยงคดีนี้ให้มากที่สุด ไม่ว่ากระป๋อง ขวดยา หรือกล่องสารเคมีทุกอย่างบริเวณรอบบ้านผู้เสียหาย และบ้านผู้ต้องสงสัย รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามร้านค้าในละแวกของชุมชน เพื่อประกอบหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุ