นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตามกฎหมาย จะต้องมีใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง(2551) ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
โดยรายละเอียดใบรับรองแพทย์แบบมาตรฐานใหม่แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ของผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพกรอกประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดประวัติเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามความจริง และต้องมีการลงลายมือชื่อยืนยันความถูกต้อง
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนของแพทย์ผู้ทำการวินิจฉัย และมีการรับรองว่าผู้ยื่นขอใบรับรองแพทย์ ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อนไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ และอาการของโรคพิษสุราเรื้อรังและไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคมวัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
นายสนิท กล่าวอีกว่า ใบรับรองแพทย์ดังกล่าว สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดตัวอย่างใบรับรองแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา ซึ่งผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตขับรถควรแจ้งวัตถประสงค์ในการขอใบรับรองแพทย์กับแพทย์อย่างชัดเจน ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในกระบวนการคัดกรองผู้ขับรถและมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่ม แม้ตามกฎหมายจะยังไม่กำหนดให้เป็นโรคต้องห้ามที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถ แต่กรณีผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถไปแล้วอาการของโรคกำเริบ ขณะขับรถจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกอาจพิจารณา เพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม และป้องกันอุบัติเหตุ