วันนี้ (15 ก.พ.61) เวลา 8.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 51-84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) โดยพบใน 6 สถานี ประกอบด้วย บริเวณริมถนนพระราม 4 ,ริมถนนอินทรพิทักษ์ ,ริมถนนลาดพร้าว ,ริมถนนพญาไท ,เขตบางนา และเขตวังทองหลาง ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง (ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด) ที่อยู่อาศัย หรือต้องเข้าในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน หากจำเป็นต้องออกจากอาคาร ควรใส่หน้ากากอนามัย และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์
นอกจากนี้กรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ เช่น การใช้ยานพาหนะ การเผา และโดยเฉพาะการก่อสร้าง ให้มีมาตรการป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง รวมทั้งรถบรรทุกขนส่งวัสดุก่อสร้างให้มีการปิดคลุมให้มิดชิด เพื่อที่จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองลงได้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักปัญหาฝุ่นละอองใน กรุงเทพมหานคร มาจากจำนวนยานพาหนะ มีปริมาณสูงถึง 9.7 ล้านคัน เป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ล้านคัน คิดเป็นร้อยละ 25 ซึ่งเกินพื้นที่ถนนที่รองได้ 4.4 เท่า และมีแหล่งกำเนิดอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรม การก่อสร้าง การเผาในที่โล่ง ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เป็นช่วงรอยต่อฤดูกาล ทำให้สภาพอากาศนิ่งมีหมอกมาก มีความชื้นสูง ทำให้มีฝุ่นละอองสะสมในอากาศ