หมอปลา มือปราบสัมภเวสี หรือนายจีระพันธ์ เพชรขาว และภรรยา พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เจ้าของเพจทนายคู่ใจ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อเอาผิด 2 เพจโซเชียล หลังโพสต์ข้อความกล่าวหาว่าบ้านของตนเปรียบเหมือน 'โรงฆ่าสัตว์' ในข้อหมิ่นประมาท บิดเบือนข้อมูล ตัดต่อภาพให้ผู้อื่นเกลียดชัง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความเข้าใจที่บิดเบือน
หมอปลา บอกว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาเองด้วยความสมัครใจ และเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่รักษามานาน หรือทางโรงพยาบาลไม่รับ ซึ่งการกล่าวหาว่าตนรักษาคน โดยมีการจับคนไข้ล่ามโซ่ เหมือนกับ 'โรงฆ่าสัตว์' ประเด็นนี้ชี้แจงว่า ญาติผู้ป่วยจะเป็นคนล่ามเอง เนื่องจากผู้ป่วยอาจทำร้ายตนเองหรือคนใกล้ตัว
ส่วนเรื่องการรักษาด้วยพริกไทย เป็นพริกไทยทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด และผ่านกรรมวิธีที่บ้าน รวมถึงกรณีที่มีคนเสียชีวิต หมอปลาระบุว่า ผู้ป่วยไปเสียชีวิตที่บ้านของผู้ป่วยเอง ซึ่งบางเคสมีอาการป่วยทรมานมานาน
โดยหมอปลา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเอาเรื่องผู้ที่โพสต์ข้อความทำให้เสียหาย มั่นใจว่า มีขบวนการร่างทรงอยู่เบื้องหลัง สาเหตุมาจากไม่พอใจที่ตนเองเปิดโปงและแฉพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ที่หากินกับความเดือดร้อนของมนุษย์ และหลอกเอาเงินจากชาวบ้าน ซึ่งยืนยันว่าจะรักษาฟรีต่อไป
ก่อนหน้านี้ สคบ. ก็เข้ามาตรวจสอบแล้ว เนื่องจากมีผู้ไปร้องเรียนว่า มีการหลอกลวงชาวบ้าน ซึ่งทาง สคบ.ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ยืนยันว่าสื่อสามารถเข้ามาตรวจสอบที่บ้านของตนได้ตลอด
ด้าน นางสาวรภัสสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ ภรรยาหมอปลา เปิดเผยว่า ในกรณีที่มีผู้นำภาพบ้านของตนเองไปโพสต์ว่าได้จากการนำเงินที่หมอปลาทำการรักษาคน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง แต่เงินที่ใช้สร้างบ้านนั้น ได้มาจากการที่ตนเองขายที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ได้ นอกจากนี้กรณีที่มีคนนำภาพที่ตนเอง กำลังทำการ “ดูดไผ่”ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบแพทย์แผนจีนให้กับป้า ซึ่งเป็นคนในครอบครัว ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นอย่างที่มีผู้นำไปเผยแพร่
ขณะที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ระบุว่า หมอปลาสามารถเอาผิดกับผู้ที่นำข้อมูลไปเผยแพร่และบิดเบือนจากความเป็นจริงได้ เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ทั้งนี้ ในส่วนของกรณีร่างทรงต่างๆ นั้นถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเอาผิดในคดีฉ้อโกงได้ เนื่องจากต้องพิสูจน์ว่าร่างทรงได้รับเงินจากคนที่มีความเชื่อขนาดไหน ซึ่งร่างทรงเป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง อาจจะมีการบอกว่าถ้าบูชาสิ่งนี้แล้วจะค้าขายได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าจะขายได้ดีขึ้นขนาดไหน เป็นเรื่องของความศรัทธา หากจะเอาผิดได้จริงๆก็ต้องเป็นคนที่มีการขายสินค้าอย่างเปิดเผยเท่านั้น
ชมคลิปที่นี่ : เป็นเรื่อง! “หมอปลา” ซัด “ขบวนการร่างทรง” ชักใยโพสต์ภาพล่ามโซ่รักษาคนป่วย