ซารา แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่สามารถอยู่ร่วมหารือกับผู้นำประเทศมหาอำนาจอุตสาหกรรม 7 ชาติ หรือ G7 จนจบการประชุมในช่วงประมาณ 17.00 น. ของวันเสาร์ โดย ทรัมป์ จะเดินทางออกจากแคนาดาในช่วง 10.30 น. ของวันเสาร์ เพื่อเดินทางมาร่วมประชุมกับ คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ ซึ่งทรัมป์น่าจะเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย. เวลาประมาณ 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่สิงคโปร์ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม คือ 02.15 น.
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ ว่า หากการเจรจาเป็นไปด้วยดี เขาก็จะเชิญ นายคิม จอง-อึน ให้เดินทางมาเยือนสหรัฐ และพร้อมจะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับ จากนั้น สหรัฐฯ ก็อาจสถาปนาความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือในระดับปกติ ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า บรรยากาศที่เป็นมิตรแบบนี้ ทำให้เขาตัดสินใจเลิกใช้คำว่า “แรงกดดันขั้นสูงสุด” ซึ่งหมายถึงการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดกับเกาหลีเหนือ
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งหวังว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จ แต่ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็พร้อมจะถอนตัว หากคิดว่าการเจรจาไม่เป็นไปด้วยดี โดยผู้นำสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับอะไรที่นอกเหนือจาก “การทำให้คาบสมุทรเกาหลีเหนือปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิง ที่ตรวจสอบได้ และไม่มีทางย้อนกลับ
นายปอมเปโอ ระบุด้วยว่า ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ จะให้หลักประกันความมั่นคงของเกาหลีเหนือ หากยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ มีรายงานอ้างแหล่งข่าวคนใกล้ชิดและอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ว่า ในการเจรจา ทรัมป์ จะใช้วิธีการหว่านล้อมและกดดันผสมผสานกัน เพื่อจูงใจให้ผู้นำเกาหลีเหนือยอมล้มเลิกการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยจะเชื่อสัญชาตญาณและความสามารถของตัวเองในการเจรจาบรรลุข้อตกลง มากกว่าเอกสารสรุปที่เตรียมไว้ให้เขา