เครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ฟอร์ซ วัน” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงฐานทัพอากาศ “ปายา เลห์บา” ของสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยมีนาย วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ มารอให้การต้อนรับ
โดยก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ เพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ที่ประเทศแคนาดา ก่อนจะบินตรงมาที่สิงคโปร์ รวมระยะเวลาเดินทางกว่า 17 ชั่วโมง
ซึ่งก่อนออกเดินทาง ทรัมป์ได้แถลงว่า ภารกิจครั้งนี้จะเป็นภารกิจเพื่อสันติภาพ และตัวเขามีความมั่นใจมากกับการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังระบุว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสแค่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของผู้นำเกาหลีเหนือ เพราะเขาสามารถประเมินสถานการณ์ได้ตั้งแต่นาทีแรกที่พบกันว่าการประชุมจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และจะไม่ให้เสียเวลาของทั้งสองฝ่าย หากมองว่าการเจรจาครั้งนี้จะไม่เกิดประโยชน์
ด้านนาย คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และคณะ ก็เพิ่งเดินทางถึงสิงคโปร์ก่อนหน้าคณะของทรัมป์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยรายงานข่าวระบุว่า เครื่องบินโบอิง 747 ของสายการบินแอร์ไชน่า ซึ่งคาดว่าเป็นเครื่องบินของผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ชางงี ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายโมงครึ่งที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย
ล่าสุด มีรายงานว่า นายคิมได้เดินทางไปเข้าพบและหารือกับนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ ที่ทำเนียบอิสตานาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเซนต์ รีจิส ซึ่งใช้เป็นที่พักตลอดการเยือนสิงคโปร์ในครั้งนี้
ส่วนทรัมป์ ตามกำหนดการจะเดินทางเข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา และจะเดินทางเข้าพบกับนายกฯสิงคโปร์ในวันพรุ่งนี้ ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับ คิม จอง-อึน ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา ของสิงคโปร์ ในวันอังคารนี้
ขณะที่กองทัพสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลกเริ่มทยอยเดินทางไปที่ศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติ ซึ่งจัดไว้รองรับนักข่าวที่เดินทางมาเกาะติดรายงานข่าวการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ในวันอังคารนี้
ซึ่งสถานที่ที่ทางการสิงคโปร์จัดไว้สำหรับรองรับสื่อมวลชน อยู่ในอาคาร Pit Building ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันรถ F1 ของสิงคโปร์ มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ไว้ถ่ายทอดการประชุมให้นักข่าวได้ชมด้วย โดยคาดว่าจะมีนักข่าวเดินทางมาร่วมรายงานข่าวในครั้งนี้มากถึง 2,500 คน ทำข่าว
ขณะที่บรรยากาศในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ ก็คึกคักไม่แพ้กัน โดยเมื่อวานนี้ มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวหลายร้อยคนพร้อมใจกันจัดกิจกรรมจุดเทียน แสดงความปรารถนาที่จะให้การประชุมสุดยอดระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ คิม จอง-อึน สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในระหว่างการประชุมนี้ ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่นำไปสู่สันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี และการรวมชาติสองเกาหลีได้