กรณีคลิปเสียงที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยแพร่ผ่านเฟชบุ๊ก มีความยาวประมาณ 27 นาที ที่ไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงใคร แต่นายอัจฉริยะใช้นามแฝงเสียงของชายคนหนึ่งในคลิปว่า เป็นคนที่กำลังจะจัดทริปล่องแพ กำลังคุยกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ถึงการตามหาคนนำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไปขึ้นเงิน โดยเสียงในคลิปคล้ายกับเสียงครูปรีชา โดยระบุว่า ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไม่ได้อยู่กับตัวเองตั้งแต่ต้น และตอนที่ไปรับจากมือแม่ค้าที่ใช้ชื่อว่า “เจ๊ดำ” ไม่มีหมายเลขดังกล่าว และยังมีประเด็น เงินรางวัล 1 ล้านบาท ที่ให้กับตำรวจ และ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ หากสามารถเอาเงินรางวัลคืนมาได้
วันนี้ 18 มิ.ย.61 ทีมข่าวพีพีทีวี ลงพื้นที่พบกับ เจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และ นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความเจ๊บ้าบิ่น เพราะมีการอ้างถึง เจ๊ดำ ซึ่งก่อนหน้านี้เชื่อกันว่าคือ เจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าลอตเตอรี่ทั้ง 2 คน บอกว่า ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียง และไม่เคยให้น้ำหนักกับนายอัจฉริยะในคดีนี้อยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องฟัง เพราะโดยส่วนตัวเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเอง คือ ยืนยันว่าขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้กับครูปรีชา
เมื่อถามเจ๊บ้าบิ่น ถึงประเด็นเรื่องเงิน 1 ล้านบาทที่จะมอบให้คนที่ช่วยเป็นพยาน ว่าเคยพูดกับครูปรีชาหรือไม่ เจ๊บ้าบิ่น ยอมรับว่า มีคุยกันบ้าง แต่เป็นการพูดคุยหยอกล้อกัน ว่าหากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ขอส่วนแบ่ง1ล้านบาท ไม่เกี่ยวกับเงินตอบแทนในการให้ไปตามหาลอตเตอรี่ที่หายไป
ส่วนนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความเจ๊บ้าบิ่น ตั้งข้อสังเกตุต่อการกระทำของนายอัจฉริยะว่าต้องการสร้างกระแสให้สังคมสับสนหรือไม่ หรือพยายามสร้างความแตกแยกในส่วนพยานฝ่ายครูปรีชา
นอกจากเจ๊บ้าบิ่น กับ เจ๊พัช ทีมข่าว ยังเดินทางไปหา เจ๊เกียว พร้อมยอมรับว่าเสียงในคลิปที่เผยแพร่ออกมาคล้ายเสียงครูปรีชา และยอมรับว่า เจ๊ดำ คือ เจ๊บ้าบิ่น ส่วนเรื่องขอแบ่งเงิน 1 ล้านบาท ไม่ออกความคิดเห็น แต่ เจ๊บ้าบิ่น กับครูปรีชา เคยพูดหยอกล้อกันเรื่องเงินรางวัล หากถูกรางวัลที่ 1
ส่วนครูปรีชา ทีมข่าวโทรศัพท์ไปถามถึงเรื่องคลิปเสียงโดยครูปรีชา พูดเพียงสั้นๆว่า ยังไม่ได้ฟัง และไม่คิดจะฟังพร้อมถามย้อนกลับ นายอัจฉริยะว่า ไปเอาคลิปมาจากที่ใดมีหลักฐานอ้างอิง หรือ ก่อนจะตัดสายโทรศัพท์