นักโภชนาการ แนะ ทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ควรกินอาหารอ่อนเพื่อปรับร่างกายในระยะแรก

โดย PPTV Online

เผยแพร่

หลังจากที่พบเด็ก และโค้ชทั้ง 13 คนแล้ว เรื่องอาหารการกินในการปรับสภาพร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยอาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการ ที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่าในระยะแรกควรรับประทานอาหารอ่อน หรือ เกลือแร่เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของทั้ง 13 ชีวิต

วันนี้(3 ก.ค.61) อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการ ที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  ให้ข้อมูลว่า สิ่งแรกที่หน่วยแพทย์เข้าไปถึง อาหารมื้อแรกที่จะตกถึงท้องเด็กและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ทั้ง 13 คน เป็นอาหารแข็งไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะว่ากระเพาะ ลำไส้ของทุกคน รวมถึงน้ำย่อยของน้องเริ่มหยุดทำงานมาเป็นเวลา 7 วัน

ในช่วง 2-3 วันแรก ร่างกายจะดึงเอากลูโคสที่ได้จากอาหารที่กินมามื้อสุดท้ายมาใช้เป็นพลังงาน แต่พอวันที่ 3 - 4 ในช่วงสัปดาห์แรก ร่างกายจะดึงคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปของไกลโครเจนที่อยู่ในตับออกมาเป็นพลังงาน หลังจากนั้นก็จะใช้โปรตีนและไขมันที่สะสมอยู่ ซึ่งนี่คือความมหัศจรรย์ของร่างกายมนุษย์ที่จะไม่ยอมให้ตัวเองหยุดและเสียชีวิต

แต่ที่น่ายินดี คือ ภาพในคลิปเมื่อคืนนี้ ที่น้องยังเป็นปกติ น้องยังลุกขึ้นยืนได้ แม้ขาน้องจะลีบไปก็ตาม แต่ยังคงมีการพูดจาโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ได้

สิ่งที่ทั้ง 13 คน จะกินได้เป็นอาหารที่อ่อนมาก ๆ ซึ่งต้องให้คุณหมอภาคย์ หรือ อายุรแพทย์ เข้าไปตรวจดูว่า ตอนนี้สภาพร่างกายของแต่ละคน ของน้องพร้อมจะรับประทานอาหารประเภทใด แต่โดยปกติตามธรรมชาติแล้ว 9-10 วัน ร่างกายอ่อนแอมาก อาหารแข็ง หรือ ควรจะเป็นอาหารทางสายยาง หรือ เป็นอาหารทางน้ำเกลือ ที่ให้แร่ธาตุ เพื่อปรับสภาพร่างกายก่อน 2-3 วันถึงจะเป็นอาหารแข็งได้

ในส่วนของพาวเวอร์เจลที่เจ้าหน้าที่นำเข้าไป เพราะเป็นอาหารที่อยู่ในรูปของอาหารที่แปลงเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึม เหมือนกับข้าวเป็นเม็ดๆ  อย่างข้าวเหนียวเป็นห่อๆ พาวเวอร์เจลใช้ได้ในภาวะฉุกเฉิน พอจะใช้ได้ระดับหนึ่ง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ