วันนี้(3 ก.ค.61) นพ.สรฤทธิ์ เกียรติเฟื่องฟู แพทย์เวชศาสตร์การบินฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินร่างกายของเด็ก และโค้ชทั้ง 13 คน รวมไปถึงสถานการณ์ว่าจะสามารถออกมาจากด้านในของถ้ำได้อย่างไร
โดยหากน้ำลด เด็กสามารถเดินออกมาเองได้ หรือ ว่าต้องเคลื่อนย้ายโดยใช้เปลก็จะมีเจ้าหน้าที่แพทย์สนามคอยดูแลอยู่ตลอดการลำเลียง แต่หากจะต้องออกมาด้วยวิธีอื่นก็ต้องมีการประเมินอีกครั้ง
สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องของเชื้อโรคต่างๆ แต่เป็นเรื่องของสารอาหารที่เด็กขาด เพราะไม่ได้รับประมานอาหารมานานเกือบ 10 วัน เพราะในส่วนของเชื้อโรคสามารถที่จะเฝ้าระวัง เพราะมีเรื่องของระยะฟักตัวที่เฝ้าระวังได้
ในส่วนของพาวเวอร์เจลที่เจ้าหน้าที่ได้นำติดไปด้วย หวังที่จะให้เด็กๆได้รับประทานก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องให้ในปริมาณในพอดี การที่เด็กขาดสารอาหารมานานการจะรับประทานอาหารมื้อใหญ่เลยก็อาจทำให้ร่างกายทำงานหนักเกินไปอาจจะเสียชีวิตได้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักในระยะแรก
สำหรับความกังวลเกี่ยวกับพายุที่อาจจะส่งผลกระทบ จะต้องมีการชั่งน้ำหนัก ความเสี่ยงกับความปลอดภัย เราก็ต้องเลือกความปลลอดภัย แต่ถ้าพายุจะเข้าก็ต้องเร่งสูบน้ำให้ได้มากที่สุด และอุปกรณ์การดำน้ำ แต่ตอนนี้ถือว่ายังรอได้อยู่
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ดำน้ำ หลังจากจบภารกิจต้องตรวจร่างกาย อาจต้องเฝ้าระวังโรคทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้ อาทิ พวกเชื้อรา ฉี่หนู วัคซีนพิษสุนัขบ้า ก็ต้องมีตรวจร่างกายในเบื้องต้น