“อธิบดีกรมชลฯ” มั่นใจน้ำในถ้ำหลวงลดเร็วหลังบายพาสสำเร็จ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

อธิบดีกรมชลประทาน ออกมายืนยันว่า หลังการทำบายพาสน้ำออกจากถ้ำหลวง วันละ 68,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้หน่วยซีลประเมินสถานการณ์ก่อนช่วยเด็กและโค้ช ทั้ง 13 ชีวิต ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้ทำจุดเบี่ยงทางน้ำหรือบายพาส สำเร็จที่บริเวณจุดผาฮี้ เพื่อไม่ให้น้ำฝนและน้ำจากภายนอกไหลเข้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยบริเวณจุดผาฮี้ ถือว่าเป็นจุดใหญ่และจุดสำคัญ เพราะน้ำที่ไหลเข้าถ้ำจากบริเวณนี้มีมากถึง ประมาณ 13,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง ขณะนี้สามารถทำได้วันละประมาณ68,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน  ด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำของกรมชลประทานและทุกภาคส่วนรวม 30 เครื่อง เร่งเดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชม. ทุก 2 ชั่วโมง ระดับน้ำจะลดลงประมาณ 1 เซนติเมตร

ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำภาพรวมต่ำกว่าวันก่อน ประมาณ  4-5 เซนติเมตร และมีสัญญาณที่ดีว่า ระดับน้ำในถ้ำลดลงทุกจุดเท่ากันซึ่งหมายความว่าไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำในถ้ำแล้ว 

นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ในช่วง 3-4 วันนี้ก่อนที่ฝนจะตกลงมาตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ ทุกภาคส่วนจะเร่งระบายน้ำออกจากถ้ำให้ได้มากที่สุด พร้อมกับเร่งทำทางเบี่ยงน้ำที่จะไหลเข้าสู่ถ้ำ เชื่อมั่นว่า ทางเบี่ยงน้ำสามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปเติมภายในถ้ำได้  และการสูบน้ำก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสูบน้ำจนแห้งเสมอไป เพราะหน่วยซีลจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่า น้ำในถ้ำที่ลดลงระดับใด จึงจะเหมาะสมต่อการนำ 13 ชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย

แม้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา บริเวณถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนปริมาณฝนจะลดลง แต่ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอีกครั้ง และนานหลายวัน หวั่นกระทบภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตภายในถ้ำหลวง โดยเฉพาะปริมาณน้ำฝนที่อาจไหลเข้าถ้ำ

ตามแผนที่พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จะเห็นว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ที่จะพัดเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือจะมีฝนตกลงมาอีกในวันนี้ โดยอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า แม้มรสุมที่พัดมา จะมีเทือกเขาบังช่วยให้ลมมรสุมมีกำลังอ่อนลง แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศ ของเขาหลวงที่หน้าเขาเป็นจุดรับลม แระกอบกับความชื้นของป่าบริเวณนั้น ส่งผลให้จะมีฝนตกหนัก

คอนเทนต์สำหรับคุณ

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot
เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot

ส่วนช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไม่มีฝน หรือตกเพียงเล็กน้อยในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นเพราะอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นพระพิรุณ ที่พัดเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นได้พัดพาร่องฝนทางภาคเหนือขึ้นไปอยู่ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งขณะพายุพระพิรุณอ่อนกำลังลง ร่องฝนจะเริ่มเคลื่อนตัวลงมาอยู่ที่ภาคเหนือของไทยเช่นเดิม ประกอบกับพายุดีเปรสชั่นที่กำลังก่อตัวอยู่ทางมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ จะเข้ามาพัดผ่านตอนเหนือของไทยเช่นกัน คาดว่าฝนจะตกหนักที่สุดในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม จึงกังวลว่าจะกระทบกับการช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำหลวง เนื่องจากปริมาณฝนส่งผลให้น้ำในถ้ำสูงขึ้น

โดยข้อมูลทั้งหมดนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ ส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพิจารณาประกอบการวางแผนช่วยเหลือ โดยมีสถานีอุตุนิยมวิทยาเชียงราย ทำหน้าที่ส่งข้อมูลในทุกๆ 15 นาที

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ