เมื่อวันที่ (8 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางลำเลียงผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน เมื่อออกจากถ้ำได้แล้ว จะลำเลียงจากปากถ้ำไปโรงพยาบาลสนาม ด้วยรถฉุกเฉิน ระยะทางประมาณ 200 เมตร หลังจากนั้นทั้งหมดจะถูกลำเลียงไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หากผู้ประสบภัยคนไหนอาการสาหัสจะลำเลียงโดยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจากลานบินไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที
โดยเมื่อถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้เตรียมความพร้อมด้านการรักษาทั้ง 13 คน ได้เตรียมความพร้อมทางการแพทย์เรียบร้อยทุกด้าน ทั้งคณะแพทย์และสถานที่ที่จะรักษา จะส่งถูกส่งตัวเข้าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจซึ่งจะเตรียมผู้ป่วยที่คัดแยกปลอดเชื้อ หลังจากนั้นจะเจาะเลือดตรวจพร้อมคัดแยกส่งตามหอผู้ป่วยต่างๆ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะตรวจสภาพร่างกาย เพื่อประเมินอุณหภูมิของร่างกาย การขาดน้ำ ขาดอาหาร ตรวจเอกซเรย์ปอด ทางเดินหายใจ และเจาะเลือดเพื่อตรวจว่ามีอาการติดเชื้อหรือไม่ จากนั้นจะมีจักษุแพทย์เข้ามาทางด้านประสาททางตาเนื่องจากว่าเด็กๆที่ติดอยู่ในถ้ำไม่ได้รับแสงเป็นเวลานาน
นอกจากนี้เมื่อเข้าห้องผู้ป่วยแล้วทางแพทย์จะมีการปรับเซลล์ประสาทตา โดยใช้วิธีหรี่ไฟด้วย ส่วนผู้ปกครองและญาติ ๆ จะสามารถเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ดูแลจะอนุญาต