ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เดินทางถึงสนามบินในกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ท่ามกลางบรรยากาศของการชุมนุมประท้วงจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของเขา โดยเฉพาะเรื่องผู้อพยพ โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวบางส่วนได้ฉายข้อความลงไปบนทำเนียบประธานาธิบดีฟินแลนด์ ใจความว่า “ทั้งโลกกำลังจับตาดูอยู่” อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนบางส่วนที่สนับสนุนทรัมป์ ออกมาเคลื่อนไหว ถือป้ายต้อนรับการเยือนในครั้งนี้
ทรัมป์มีกำหนดจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ทำเนียบประธานาธิบดีฟินแลนด์ ในช่วงบ่ายวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 5 โมงครึ่ง ตามเวลาประเทศไทย โดยจะเริ่มจากการหารือตัวต่อตัวเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยจะอนุญาตให้ล่ามของแต่ละฝ่ายเข้าร่วมเท่านั้น ก่อนจะเป็นการประชุมร่วมกับคณะผู้แทนระหว่างมื้อเที่ยง อีก 1 ชั่วโมงครึ่ง และปิดท้ายด้วยการแถลงร่วมของทั้งสองผู้นำ
การประชุมสุดยอดครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลของบรรดาชาติพันธมิตรตะวันตก ว่าทรัมป์อาจจะเอาใจปูติน จนไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติพันธมิตร เหมือนที่เขาเคยทำในการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ โดยเมื่อวานนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีได้ออกมาเตือนทรัมป์ให้ระมัดระวังการบรรลุข้อตกลงร่วมกับรัสเซียเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ถามความเห็นชอบจากชาติพันธมิตรก่อน
ขณะที่ทรัมป์เอง ก่อนหน้านี้ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการพบกับปูตินในครั้งนี้ แต่ยืนยันว่าจะใช้ท่าทีแข็งกร้าวกับรัสเซีย โดยจะซักถามเรื่องที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังแสดงความเห็นว่า ทุกวันนี้ สหรัฐฯมีศัตรูอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป จีน หรือแม้แต่รัสเซีย แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเลวร้าย แต่เป็นเรื่องของการแข่งขันเท่านั้น
ส่วนประเด็นหลักๆ ที่คาดว่าทั้งสองผู้นำจะหารือกัน คือ เรื่องที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การยุติสงครามในซีเรีย สถานการณ์ในยูเครนและคาบสมุทรไครเมีย รวมถึงการลดจำนวนขนาดคลังแสงนิวเคลียร์ของทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
ด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเจรจาของสองผู้นำมหาอำนาจโลกในครั้งนี้ ไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยเชื่อว่าจะไม่มีการบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมใดๆ หลายฝ่ายมองว่า แม้ทรัมป์จะเป็นเจ้าพ่อแห่งการเจรจาต่อรอง แต่ยังถือว่าเป็นมือสมัครเล่น เมื่อเทียบกับปูติน ขณะที่บางส่วนกังวลว่าการประชุมครั้งนี้อาจนำไปสู่การทำสงครามกับอิหร่านหรือไม่
คาเฟ่ฟินแลนด์ผุดเมนูพิเศษ แพนเค้ก “ทรัมป์ปูติน”
ขณะที่คาเฟ่ชานกรุงเฮลซิงกิ ผุดเมนูพิเศษ ที่มีชื่อว่า “ทรัมป์ปูติน” โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างสูตรแพนเค้กของสหรัฐฯและรัสเซีย และเพิ่มรสชาติทั้งหวานและเปรี้ยวเข้าไป เจ้าของร้านบอกว่า ตอนแรกจะทำเค้ก รับซัมมิตครั้งนี้ แต่ก โดยแพนเค้กตำรับรัสเซีย จะเรียกว่า บลินี (Blini) มักจะรับประทานกับแซลมอน ซาวครีม และหัวหอมสับ ส่วนแพนเค้กสัญชาติอเมริกัน จะมีความเป็นของหวานมากกว่า โดยมักจะทานกับสตรอว์เบอร์รีสด เมเปิลไซรัป และไอศกรีมวานิลลา