รายละเอียดหลักที่ประกาศในกฎหมายฉบับนี้ คือให้ งดนำเข้า ผลิต และจำหน่าย น้ำมันที่ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีการเติมไฮโดรเจนทุกชนิดในประเทศไทย ทำให้น้ำมันที่แปรรูปด้วยวิธีเติมไฮโดรเจน เช่น เนยเทียม ครีมเทียม หรือ มาการีน หากนำมาใช้ถือว่าผิดกฎหมาย แต่การประกาศใช้ครั้งนี้ ผู้ควบคุมกฎหมาย คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ยังไม่ได้วางมาตรการ หรือแนวทางในการตรวจสอบทางกฎหมาย
ทำให้ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มองว่า อาจเกิดช่องว่างที่ผู้ผลิตบางรายฉวยโอกาสนำวัถตุดิบที่มีส่วนผสมมาใช้ในอนาคต จึงแนะนำให้ อย. วางมาตรการ ตรวจสอบ และดูแลอาหารให้ทัน ก่อนกฎหมายฉบับนี้จะใช้อย่างเป็นทางการในอีก 180 วัน
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังแนะนำว่าต้องวางกฎเกณฑ์ ประกอบด้วย การกำหนดระเบียบส่วนผสมในอาหารทุกชนิดว่าต้องไม่มีไขมันทรานส์ ,การกำหนดค่าไขมันทรานส์ในฉลากอาหารทุกชนิด และแนวทางตรวจสอบไขมันทรานส์ในอาหาร เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม ผู้อำนวยการสำนักอาหาร สำนักงาน อย. เชื่อว่าจะสามารถออกกฎระเบียบก่อนกฎหมายจะบังคับใช้อย่างจริงจังได้ต้นปีหน้า
อ่านเพิ่มเติม : “ไขมันทรานส์” ทำเกิดโรคหัวใจ-หลอดเลือด ส่อกระทบธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก
อ่านเพิ่มเติม: “ไขมันทรานส์” คืออะไร ถึงคร่าคนได้ทั้งโลก 5 แสนคนต่อปี