สำนักข่าว ABC Laos รายงาน อ้างอิงข้อมูลจากคณะกรรมการรับผิดชอบผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เมืองสนามไชย ยืนยันว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 26 คน ทั้งหมดเป็นชาวลาว ส่วนจำนวนผู้สูญหายยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่นอนได้ โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายทั้งกลางวันและกลางคืน
ล่าสุด รัฐบาลได้ประกาศภาวะภัยพิบัติจากวิกฤตเขื่อนแตกในครั้งนี้ ขณะที่ทางการท้องถิ่นแขวงอัตตะปือต้องใช้เรือและเฮลิคอปเตอร์ เข้าไปช่วยอพยพชาวบ้านที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากถนนหนทางในพื้นที่ถูกกระแสน้ำพัดเสียหายเกือบทั้งหมด เบื้องต้น สามารถช่วยออกมาได้แล้ว 2,851 คน และอีกกว่า 3,000 คน ยังปักหลักรอความช่วยเหลืออยู่บนต้นไม้และหลังคาบ้าน
ด้านนายทองลุน สีสุดลิด นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเลื่อนกำหนดการประชุมรัฐสภา พร้อมสั่งให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง คอยติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้รัฐบาลกลางให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะที่ตัวเขาได้เดินทางลงพื้นที่ประสบภัยเองด้วย
ล่าสุด รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของลาว ยังได้สั่งให้มีการเพิ่มการตรวจตราและเฝ้าระวัง เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำทั่วประเทศด้วย สำหรับความเสียหายขณะนี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 11,000 ไร่ มีหมู่บ้านถูกน้ำทะลักเข้าท่วมจนได้รับความเสียหายเพิ่มอีก 2 แห่ง รวมเป็นทั้งสิ้น 8 แห่ง จากทั้งหมด 12 แห่ง ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,372 ครัวเรือน หรือ 7,424 คน
ขณะที่ความช่วยเหลือจากนานาประเทศหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สิงคโปร์ ที่ส่งสารแสดงความเสียใจ พร้อมเตรียมจัดส่งความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยในลาวอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่มีส่วนรับผิดชอบดูแลโครงการนี้ ได้มีการเปิดประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งหน่วยบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งได้แก่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ ไปยัง สปป.ลาว โดยจะออกเดินทางภายใน 24 ชั่วโมง
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือด้านการกู้ภัย หากได้รับการร้องขอ ภาคประชาชนได้ร่วมกันระดมทุน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนแตก โดยยอดเงินที่ตั้งไว้ คือ 2,000 ล้านกีบ หรือ 8,000,000 บาท ซึ่งยอดบริจาคขณะนี้อยู่ที่ 1,200 ล้านกีบ หรือเกือบ 5,000,000 บาทแล้ว